หริ่นรีวิวที่เที่ยวโดโลไมต์ในอิตาลี



มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในเขตจังหวัด Belluno, Vicenza, Verona, Trentino, South Tyrol, Udine and Pordenone เป็นเเหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ทัศนียภาพสวยงามแปลกตาและมีชื่อเสียงของอิตาลี ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.2009

วิวฉากหลังแห่งเทือกเขาแอลป์ คุณสามารถใช้เวลาหลายวันในการสำรวจโดโลไมต์ เพราะ Dolomites มีวิวแนวภูเขาหินปูนต่อกันยาวสวย เต็มไปด้วยป่าสนและทะเลสาบ และที่เที่ยวเยอะมาก ขึ้นอยู่กับเวลาที่คุณมี สามารถเลือกเที่ยวได้ดังนี้

แผนที่เที่ยวโดโลไมต์
https://www.google.com/maps/d/u/0/viewer?mid=15lS-eh5GFWH5lbDOAa756_ONj8INjrwd&hl=en&ll=46.65668057123953%2C11.897900000000007&z=10

ภูเขาดังๆ ในโดโลไมต์

1 Seceda Seceda ภูเขารูปทรงเอกลักษณ์ สูง 2,519 เมตร ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขตเมือง Ortisei นิยมขึ้นมาเดินเขาชมวิว ถ่ายรูป แนะนำเส้นทาง Croce del Seceda ที่มีไม้กางเขนตั้งอยู่ แล้วเดินกลับลงมา

2 หุบเขา Val di Funes หุบเขาเล็กๆแห่งหนึ่งของโดโลไมท์ตะวันตก อยู่ห่างจากเมือง Bolzano ประมาณ 30 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือ (หรือประมาณ 35 กิโลเมตรทางเหนือของเมือง Ortisei) มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ภาพของโบสถ์สีขาว บนทุ่งหญ้ากว้างสีเขียว ฉากหลังคือยอดเเหลมของภูเขาหินปูนของกลุ่มเทือกเขา Odle/Geisler ที่ตั้งตระหง่านตัดกับท้องฟ้าสีสดใส

3 Tre Cime di Lavaredo (ยอดเขาสามแห่งที่มีชื่อเสียงอันตระการตา) ภาษาอังกฤษ คือ The Three Peaks of Lavaredo ภูเขาหินขนาดมหืมา 3 ลูกที่วางตัวเรียงกันในเเนวตะวันออก-ตะวันตก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานเเห่งชาติ Tre Cime Naturel Park ใช้เวลาเดินทางโดยการขับรถจากเมือง Cortina D’Ampezzo ประมาณ 40 นาที (ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร)  ต้องเสียเงินค่าเข้าอุทยานสำหรับรถยนต์ด้วย คันละ 30 ยูโร ต้องอาศัยการเดินเท้าเเต่เพียงอย่างเดียว ระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 10 กิโลเมตร

4 Seiser Alm หรือ Alpe di Siusi ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง Ortisei ลักษณะเป็นที่ราบสูงเเบบอัลไพน์ มีความสูงตั้งเเต่1,680 - 2,350 เมตร ทอดตัวยาวเหยียดถึง 52 กิโลเมตร จัดได้ว่าพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป สามารถขึ้นกระเช้า ที่สถานี Alpe di Siusi  (“Mont S?uc” ropeway) อยู่ห่างจากตัวเมืองในระยะทางเดินเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยมีสะพานคนเดินข้ามทอดยาวไปถึงหน้าสถานีกระเช้าเลย (ราคา 19.9 ยูโร แต่หากใช้บัตร Dolomiti Supper Summer แบบหนึ่งวันในราคา 47 ยูโร ซึ่งสามารถใช้ขึ้นกระเช้าต่างๆได้หมด) แนะนำขึ้นกระเช้าที่นี่ เพราะไม่ต้องเดิน

5 ใกล้ๆ กับ Alpe di Siusi ยังมีหุบเขา Val Gardena ที่ตั้งยอดเขา Resciesa มีลักษณะเป็นที่ราบลาดเอียงขนาดประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร ที่ระดับความสูงระหว่าง 2,282-2,303 เมตร นิยมใช้เป็นจุดชมวิวกลุ่มยอดเขา Sassolungo, Odel และทิวทัศน์มุมอื่นๆของเทือกเขาโดโลไมท์ การเดินทางใช้รถราง Funicula สถานี Funicolare Resciesa ไม่ไกลจากสถานีกระเช้า Seceda นั่นเอง ที่นี่สามารถมองเห็น ยอดเขา Alpe di Siusi ด้วย โดยรถรางจะไต่ไปที่ความสูง 2,200 เมตร มีร้านอาหารและที่พักเเบบชาเล่ต์ให้บริการด้านบน ที่บริเวณนี้มีเส้นทาง trekking ไป Seceda ได้ด้วย



ทะเลสาปดังๆ ในโดโลไมต์

1 ทะเลสาบมิซูรินา (Misurina Lake) ทะเลสาบใสดุจคริสตัลที่ความสูง 1754 ม. เหนือระดับน้ำทะเล และมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขา เป็นทะเลสาบธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอิตาลี วิวสะท้อนภาพภูเขาลงบนผืนน้ำ ตั้งอยู่แนวเทือกเขาแอลป์ สถานที่ที่อยู่ปลายทะเลสาบไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นโรงพยาบาลที่รักษาโรงหอบหืด และบริเวณรอบทะเลสาบจะมีร้านอาหาร ร้านให้เช่า อุปกรณ์สกี และมีลานสกีตั้งอยู่ไม่ไกล และที่ทะเลสาบนี้ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้ที่จัดกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวด้วย

2 Lake Braies (Lago di Briaes) หรืออีกชื่อ ทะเลสาป The Pragser Wildsee, หรือ Lake Prags เป็นทะเลสาบเล็กๆ ที่สมบูรณ์แบบ ตั้งอยู่ชายแดนออสเตรีย กับอิตาลี (อยู่ทางเหนือของอิตาลี อยู่ในอุทยานบริเวณเดียวกันกับ Dolomites) ที่นี่สามารถเช่าเรือพายเล่นได้ และสามารถ treking รอบๆ ได้ ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับถ่ายหนังและละครมากมาย ถือเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ FANES SENNESBRAIES เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ มีตำนาน คืนพระจันทร์เต็มดวงกับเจ้าหญิง

3 ทะเลสาป Lago di Carezza หรือ ทะเลสาป Karersee (ภาษาเยอรมัน) ใกล้หุบเขา Val di Funes เป็นทะเลสาบอัลไพน์ขนาดเล็กที่มีน้ำสีเขียวมรกตและทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขา Latemar เป็นฉากหลัง ตั้งอยู่สูง 1,520 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีความกว้างประมาณ 140 เมตร ยาว 300 เมตร น้ำในทะเลสาบมีความลึกตั้งเเต่ 6-22 เมตร ได้รับฉายาจากนักท่องเที่ยวว่า “Rainbow Lake” และ “Fairytale Lake of the Dolomites” ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Ortisei ไปทางใต้ประมาณ 55 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษๆ  ถ้ามาจากเมือง Bolzano ก็ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น

4 Lago di Sorapis หรือ ทะเลสาป Lake Sorapis เป็นทะเลสาบในเทือกเขา Sorapiss ใน Dolomites จังหวัด Belluno ห่างออกไป 12 กม. จาก Cortina d'Ampezzo ทะเลสาบมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,925 เมตร สีฟ้าครามที่รุนแรงคือฝุ่นจากธารน้ำแข็ง ทะเลสาบสามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าหรือเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น

จองได้ที่นี่ https://www.hoverfly.it/?gclid=Cj0KCQjwyLGjBhDKARIsAFRNgW--ifxiW2nU1SkUA0YYNHcxDlfZJWyKEIoehletEjEES6n1FKOPswkaAkrXEALw_wcB

จองทัวร์เฮลิคอร์เตอร์ในอิตาลีได้ที่นี่
https://getyourguide.tp.st/rrGlScEZ

เมืองดังๆ ในโดโลไมต์

1 เมือง Cortina D'Ampezzo เมืองที่คุณต้องไปได้แก่ Cortina D'Ampezzo เมืองที่ทันสมัย มีชื่อเสียงสำหรับเครื่องบินเจ็ท ที่ซึ่งแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลกและสถาปัตยกรรมอัลไพน์ที่สวยงามมาบรรจบกัน

2 เมือง Ortisei เมืองหลักของ Dolomites เบสในการขึ้นกระเช้าอย่าง Ortisei มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 4,700 คน สูง 1,230 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค ใช้เป็นจุดตั้งต้นการเที่ยว ในเขตเมืองมีแลนด์มาร์คคือ Parish church of Urtijei โบสถ์สำคัญที่สร้างขึ้นระหว่างปี 1792-1796 ในสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกผสมผสานองค์ประกอบบางส่วนในสไตล์บาโรคกลิ่นอายแคว้น Tyrol สุดละมุนคลาสสิก ออร์ทิเซ่ (Ortisei) เป็นเมืองรีสอร์ทเล็กๆที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Dolomites Val Gardena โดยมีเทือกเขาต่างๆอยู่รายล้อม เช่น Seceda, Resciesa, Alpe di Siusi, Monte Piz และ Col de Mesd? ฯลฯ ที่นี่จัดได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวโดโลไมท์ในด้านตะวันตก จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวกิจกรรมหลักก็หนีไม่พ้นการเล่นสกี ส่วนในฤดูร้อนก็เป็นการเดินป่า ปีนเขา ขี่จักรยาน ฯลฯ

3 เมือง Bolzano ที่เที่ยวสำคัญคือ หุบเขา Val di Funes เป็นชื่อหุบเขาเล็กๆแห่งหนึ่งของโดโลไมท์ตะวันตก อยู่ห่างจากเมือง Bolzano ประมาณ 30 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือ (หรือประมาณ 35 กิโลเมตรทางเหนือของเมือง Ortisei) มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ภาพของโบสถ์สีขาว บนทุ่งหญ้ากว้างสีเขียว ฉากหลังคือยอดเเหลมของภูเขาหินปูนของกลุ่มเทือกเขา Odle/Geisler ที่ตั้งตระหง่านตัดกับท้องฟ้าสีสดใส พื้นที่หุบเขา Val di Funes มีหมู่บ้านเล็กๆหลายแห่งเช่น San Giacomo, Valluzza, San Valentino, Santa Maddalena, Colle โดยมี San Pietro เป็นศูนย์กลาง

4 หมู่บ้าน Santa Maddalena (St. Magdalena) ตั้งอยู่ใน หุบเขา Val di Fune มีจุดถ่ายภาพสวยๆ ได้เเก่โบสถ์ St. John of Nepomuk in Ranui และ โบสถ์ St. Maddalena ให้เดินเลยโรงเเรม Ranui Hof ออกไปอีกเล็กน้อย จะพบจุดถ่ายภาพที่สามารถมองเห็นวิวของเทือกเขา Odle

5 หมู่บ้านบริเวณเชิงเขา Ruefenweg บนระดับความสูง 1,339 เมตรแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นจุดหมายห้ามพลาดของคนมาเที่ยวเขตเทือกเขา Dolomites เพราะด้วยความงดงามของทัศนียภาพที่ลงตัวทุกอย่างเหมือนมีใครมาจับวาง มีประชากรเพียง 370 คน มุมที่มองลงมาเห็นโบสถ์ Chiesa di Santa Maddalena เรียงรายด้วยบ้านกระท่อมหลังเล็กๆ บนเนินเขา ซึ่งอลังการด้วยฉากหลังของแนวภูเขา Odle มุมนี้เป็นถนนส่วนบุคคล ไฮไลต์ของที่นี่คือ Chiesetta di San Giovanni in Ranui หรือ Church of St. John โบสถ์เล็กๆ ที่ฉากสุดสวย

6 หมู่บ้าน Pieve di Cadore ที่น่ารัก เป็นชุมชนในจังหวัด Belluno ในภูมิภาค Veneto ของอิตาลี ห่างจากเวนิสไปทางเหนือประมาณ 110 กม. และห่างจาก Belluno ทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 35 กม. "Pieve" หมายถึง "โบสถ์ประจำเขตแพริช" เป็นบ้านเกิดของ Titian จิตรกรชาวอิตาลี


กระเช้าดังๆ ในโดโลไมต์
1 กระเช้าลอยฟ้าไปยัง 5 Torri (Cinque Torri)

2 กระเช้าอีกสายที่นิยมไปกันคือไปทางทิศใต้ที่ Alpe di Siusi (alpe di siusi cable car) หรือ Seiser Alm ทุ่งหญ้าบนที่ราบสูงขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งเที่ยวได้ทั้งช่วงหน้าหนาวที่เป็นลานสกี และช่วงหน้าร้อนที่เป็นจุดเดินเขาชื่อดัง ค่าขึ้นกระเช้า ORTISEI-FURNES + FURNES-SECEDA ราคาแบบไปกลับ 37 ยูโร

3 Renon Cable Car (ที่อยู่ Via Renon 12, Bolzano) ใช้เวลาเพียง 12 นาที กระเช้าไฟฟ้ายาว 4,560 เมตร ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองที่มองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของโดโลไมต์

4 Secede Cable Car

Treking ดังๆ ในโดโลไมต์

1 กลุ่มยอดเขาแหลมฟันปลาฉลาม โดยพี่จิโร่ นักเดินทางและนักถ่ายภาพ ได้แบ่งปันข้อมูลเส้นทางเดินชมกลุ่มภูเขาแหลมฟันปลาฉลาม Adolf Munkel Trail สัญญลักษณ์ของโดโลไมท์ด้านทิศตะวันตกคือกลุ่มยอดเขาแหลมฟันปลาฉลาม (หรือเรียกว่า Odle/Geisler Group) ที่มียอดแหลมหลายยอด ยอดแหลมที่สูงที่สุดถึง 3025 เมตรสองยอดคือ Sass Rigais และ Furchetta ว่าเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวโดโลไมท์

Adolf Munkel Trail เป็นเส้นทางเดิน Hiking เพื่อไปชมกลุ่มภูเขาแหลมฟันปลาฉลามอย่างใกล้ชิด สามารถจอดที่ Parkplatz Zanser Alm (ค่าที่จอดรถ 8 ยูโร) ก่อนเดิน Hiking ตามเส้นทาง Adolf Munkel Trail โดยจากที่จอดรถเริ่มเดินทวนเข็มนาฬิกา(เส้นที่ #36) เส้นทางเดินขึ้นเนินป่าสนผ่านกระท่อม Dusler Alm จนมาสุดที่กระท่อม Geisler Alm (ทานกลางวันและชมวิวที่นี่) ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ที่สามารถมองเห็นความยิ่งใหญ่ของ Odle/Geisler Group ได้อย่างชัดเจน

ขากลับเดินผ่านกระท่อม Gschnagenhardt Alm ตามเส้นทางที่ลัดเลาะไปตามป่าสนหิน(เส้นที่ #35) ก่อนเลี้ยวซ้ายระหว่างทางผ่านกระท่อม Glatsch Alm มายังที่จอดรถ เส้นทางนี้ใช้เวลาทั้งหมดรวมถ่ายภาพประมาณ 6 ชั่วโมง

ฤดูน่าเที่ยวในโดโลไมต์

คุณสามารถเยี่ยมชมโดโลไมต์ได้ตลอดทั้งปี แต่ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และต้นฤดูใบไม้ร่วง หรือใบไม้เปลี่ยนสี ช่วง กลาง ต.ค. - พ.ย. เป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สามารถเยี่ยมชม Dolomites ได้ในฤดูหนาว แต่ต้องปรับเปลี่ยนกำหนดการเดินทาง กันยายนและวันแรกของเดือนตุลาคมเหมาะสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี ถ้าเลือกเที่ยวโดโลไมต์หน้าร้อน ซัมเมอร์ ถ้าไปหน้านี้ สามารถเดิน hiking ไปสัมผัสภูเขาอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น Tre Cime, Alpe di Siusi และ Seceda และชมทะเลสาบอันสวยงาม เช่น Lago di Braies หรือ Lago di Carezza เรียกได้ว่าครบทุกไฮไลท์ เพราะหน้าร้อนเที่ยวได้ทุกเส้น มีเส้นทางเดินระยะทางไกลสุด ไปกลับ 10 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเดินป่าระดับโลก หรืออย่างน้อยๆ 4-6 ชม.


การเลือกที่พักในโดโลไมต์

1 สามารถพักค้างคืนในฝั่งตะวันตกของโดโลไมต์ Bolzano แถบนี้ใกล้ที่เที่ยวคือ Ortisei, Alpe di Siusi, Seceda, Resciesa, Val di Funes, ทะเลสาบ Carezza เป็นต้น