ทัวร์ส่วนตัวศรีลังกา (SRI003) ทัวร์แสวงบุญ เส้นทางเมืองสำคัญแห่งศรัทธาและประวัติศาสตร์: ท่องศรีลังกา 7 วัน 5 คืน

ทัวร์ส่วนตัวศรีลังกา (SRI003) ทัวร์แสวงบุญ เส้นทางเมืองสำคัญแห่งศรัทธาและประวัติศาสตร์: ท่องศรีลังกา 7 วัน 5 คืน

ศรีลังกาซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย” มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ทั้งอัญมณีทางวัฒนธรรมและขุมทรัพย์ทางธรรมชาติ ทัศนียภาพอันน่าประทับใจของศรีลังกาเต็มไปด้วยป่าเขตร้อนอันอุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบอันกว้างใหญ่ที่สวยงามตระการตา และเทือกเขาอันตระการตา ทั้งนี้ ยังมีวัดวาอารามอันน่าดึงดูดใจและอนุสรณ์สถานโบราณมากมายให้ทุกท่านได้แสวงบุญตลอด 7 วัน 5 คืน

วันที่ 1 : สนามบินนานาชาติบันดาราไนเก - อนุราธปุระ - เจดีย์รุวันเวลิเซยยะ

วันที่ 2 : มิฮินตาเล - วัดป่า - โลวะมหาปายา - วัดอิสุรุมุณิยะ - เจดีย์รุวันเวลิเซยยะ - พระพุทธรูปสมาธิ - คุตตัมโพกุนา - เจดีย์ถูปารามะ

วันที่ 3 : สิคิริยา - ป้อมปราการหินสิคิริยา - สวนสวนน้ำ - กำแพงกระจก - ลานสิงโต - ภาพเขียนสีบนผนังหิน

วันที่ 4 : วัดถ้ำดัมบุลลา - สวนเครื่องเทศ - มาทาเล - วัดพระเขี้ยวแก้ว - อาคารรูปแปดเหลี่ยม - แคนดี้

วันที่ 5 : วัดพระเขี้ยวแก้ว - กอลล์ - ป้อมปราการกอลล์ - กำแพงป้อมปราการ - ชายหาดอูนาวาทูนา

วันที่ 6 : วัดเกลานียะราชามหาวิหาร - เกลานียะ - หอคอยโลตัส - อาคารรัฐสภาเก่า - กอลล์เฟซกรีน - จัตุรัสอิสรภาพ - ตลาดเปตตาห์ - วัดกังการามา - ทะเลสาบเบย์รา

วันที่ 7 : สนามบินนานาชาติบันดาราไนเก - กรุงเทพฯ - End total service -

 

วันที่ 1 สนามบินนานาชาติบันดาราไนเก - อนุราธปุระ - เจดีย์รุวันเวลิเซยยะ

นัดหมายคณะ พบไกด์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ณ เคาน์เตอร์สายการบินศรีลังกา เพื่อเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติบันดาราไนเกใช้เวลาเดินทาง 3.5 ชม.

เมื่อเดินทางถึงศรีลังกาแล้ว ทำการทำ VISA ON ARRIVAL (เวลาศรีลังกา ช้ากว่าไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที 

จากนั้น นำท่านเดินทางออกจากสนามบิน และรับประทานอาหารกลางวัน และออกเดินทางต่อไปยังอนุราธปุระ (ระยะทาง 205 กม. ประมาณ 4 ชม. 10 นาที) 

ช่วงบ่าย เริ่มต้นด้วย นำท่านเยี่ยมชม เจดีย์รุวันเวลิเซยยะ (Ruwanwelisaya) ซึ่งเจดีย์รุวันเวลิเซยยะ เป็นที่รู้จักในชื่อ มหาเจดีย์รุวันเวลิ เป็นหนึ่งในเจดีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญที่สุดในประเทศศรีลังกา

ตั้งอยู่ในเมืองอนุราธปุระ สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช โดยพระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย ผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ศรีลังกา

อีกทั้งเจดีย์นี้มีความโดดเด่นด้วยรูปทรงโค้งมนคล้ายฟองน้ำหรือฟองอากาศ ซึ่งในอดีตเป็นสัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์และสันติภาพ 

บริเวณโดยรอบเจดีย์มีลานกว้างสำหรับการสักการะบูชา โดยนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญมักจะเดินรอบเจดีย์เพื่อแสดงความเคารพ

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถชื่นชมสถาปัตยกรรมโบราณและลวดลายประดับที่งดงามบนฐานเจดีย์ 

ต่อด้วยกิจกรรมเข้าร่วมการทำสมาธิที่เจดีย์รุวันเวลิเซยยะ ทำให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสถึงพลังแห่งศรัทธาและบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ 

ตลอดช่วงการทำสมาธิ ท่านจะได้ฟังเสียงธรรมชาติรอบตัว รวมถึงเสียงสวดมนต์จากผู้แสวงบุญที่มาเยือน ซึ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศของความสงบในใจและนำไปสู่การมีสติที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น 

หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมการนั่งสมาธิ นำท่านรับประทานอาหารค่ำและพักค้างคืนที่โรงแรม

ค้างคืน: Rajarata Hotel Anuradhapuraซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว (หรือเทียบเท่า)

 

วันที่ 2 มิฮินตาเล - วัดป่า - โลวะมหาปายา - วัดอิสุรุมุณิยะ - เจดีย์รุวันเวลิเซยยะ - พระพุทธรูปสมาธิ - คุตตัมโพกุนา - เจดีย์ถูปารามะ

 

เริ่มต้นเช้าวันใหม่เวลา 05:00 น. นำท่านออกเดินทางไปยัง มิฮินตาเล (Mihintale) เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวที่สวยงามและเงียบสงบมิฮินตาเลเป็นยอดเขาใกล้เมืองอนุราธปุระ

เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่พระมหินทเถระได้พบกับพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในศรีลังกา ปัจจุบันมิฮินตาเลเป็นสถานที่แสวงบุญสำคัญ และมีอนุสรณ์สถานทางศาสนาหลายแห่งที่น่าสนใจ

จากนั้นเดินทางกลับโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเช้า 

(ตัวเลือกเสริม - สามารถเดินทางไปยัง วัดป่า (Forest Monastery) เพื่อเข้าร่วมโปรแกรมการทำสมาธิได้ หากต้องการ) 

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางกลับไปยัง อนุราธปุระ และเริ่มการเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ศรีมหาโพธิ์ (Sri Maha Bodhi) 

เป็นต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่กว่า 2,200 ปี เชื่อกันว่าเป็นต้นหน่อที่นำมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นต้นที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้

ต่อด้วยเยี่ยมชม โลวะมหาปายา (Lovamahapaya)หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ พระวิหารทองสำริด สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช โดยพระเจ้า ทุฏฐคามณีอภัย กษัตริย์ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างและฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในศรีลังกา 

โลวะมหาปายาเคยเป็นวิหารขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 9 ชั้น มีเสาถึง 1,600 ต้น ที่รองรับหลังคาที่มุงด้วยแผ่นสำริด จึงได้รับสมญานามว่า "พระวิหารทองสำริด"ภายในวิหารเคยเป็นที่พักของพระภิกษุจำนวนมาก 

และเยี่ยมชม วัดอิสุรุมุณิยะ (Isurumuniya)ซึ่งเป็นวัดหินโบราณที่มีชื่อเสียงอย่างมากของเมืองอนุราธปุระ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช โดยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในศรีลังกา ซึ่งวัดอิสุรุมุณิยะยังมีเอกลักษณ์โดดเด่นจากการที่ตัววัดสร้างขึ้นติดกับหน้าผาหินขนาดใหญ่ และมีบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะแก่การทำสมาธิเป็นอย่างมาก 

ซึ่งจุดเด่นของวัดอิสุรุมุณิยะ ได้แก่ 1. ภาพแกะสลักหิน “คู่รักแห่งอิสุรุมุณิยะ” (Isurumuniya Lovers) ที่นับเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของวัดนี้

2. ภาพแกะสลักช้าง (Elephant Carvings)เป็นอีกหนึ่งภาพแกะสลักที่สำคัญคือ ช้างหลายตัว ซึ่งสลักไว้ที่ผนังหินใกล้กับสระน้ำ 

3. สระน้ำโบราณ (Pond)สระน้ำโบราณที่อยู่ภายในวัด ซึ่งตั้งอยู่ติดกับหินผา เชื่อกันว่าในอดีตพระสงฆ์ใช้สระน้ำแห่งนี้สำหรับการชำระล้างร่างกายก่อนการทำสมาธิ 

4. บรรยากาศเงียบสงบวัดอิสุรุมุณิยะตั้งอยู่ในบริเวณที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อนจิตใจและทำสมาธิเป็นอย่างมาก 

จากนั้น นำท่านรับประทานอาหารกลางวัน

ช่วงบ่าย ท่านสามารถเลือกเที่ยวชมสถานที่สำคัญเพิ่มเติม ดังนี้ได้ 

  1. รุวันเวลิเซยยะ (Ruwanweliseya)เป็นเจดีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในศรีลังกาและเป็นที่รู้จักกันในชื่อ มหาเจดีย์รุวันเวลิ เป็นหนึ่งในเจดีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญที่สุดของประเทศศรีลังกา 

  1. พระพุทธรูปสมาธิ (Samadhi Buddha)เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงและสำคัญที่สุดในประเทศศรีลังกา พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช และแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญทางศิลปะของช่างแกะสลักในยุคโบราณ 

  1. คุตตัมโพกุนา (KuttamPokuna)หรือที่รู้จักกันในชื่อ สระน้ำคู่ (Twin Ponds) เป็นสระน้ำคู่สำหรับพระสงฆ์ในยุคโบราณ และนับเป็นแหล่งโบราณสถานที่มีชื่อเสียงในเมือง อนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา สระน้ำคู่นี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช และเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของวิศวกรรมการก่อสร้างระบบสระน้ำในยุคโบราณของศรีลังกา 

  1. เจดีย์ถูปารามะ (Thuparama Dagoba)เป็นเจดีย์แห่งแรก และเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศศรีลังกา ที่สร้างขึ้นเพื่อบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า

    โดยพระเจ้า เทวานัมปิยติสสะ ได้โปรดให้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช

จากนั้น นำท่านรับประทานอาหารเย็น และพักค้างคืนที่โรงแรม

ค้างคืน: Rajarata Hotel Anuradhapuraเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว (หรือเทียบเท่า)

 

วันที่ 3 สิคิริยา - ป้อมปราการหินสิคิริยา - สวนสวนน้ำ - กำแพงกระจก - ลานสิงโต - ภาพเขียนสีบนผนังหิน

หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้เดินทางไปยัง สิคิริยา (Sigiriya) เพื่อปีนขึ้น ป้อมปราการหินสิคิริยา (Sigiriya Rock Fortress)

สิคิริยาเป็นป้อมปราการหินโบราณและพระราชวังบนยอดเขาที่มีความสูงถึง 200 เมตร และยอดเขาที่มีพื้นที่กว้าง 1.6 เฮกตาร์ ซึ่งในอดีตเคยมีสิ่งปลูกสร้างครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด

สิคิริยาสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้า กัสสปะ บนยอดหินสูง 200 เมตรจากผืนป่าเบื้องล่าง โดยเป็นศูนย์กลางของเมืองโบราณที่มีป้อมปราการล้อมรอบ ฐานของหินสิคิริยามีคูเมือง กำแพงป้องกัน และสวนที่สวยงามล้อมรอบ

ในอดีตทางขึ้นยอดหินจะผ่านปากสิงโตขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงอุ้งเท้าสิงโตขนาดมหึมาให้เห็นถึงความอลังการในยุคนั้น

และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก และถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของศรีลังกา

ป้อมปราการหินแห่งนี้มีความโดดเด่นด้วยสิ่งปลูกสร้างที่งดงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สวนสวนน้ำ (Water Gardens), กำแพงกระจก (Mirror Wall) ซึ่งมีภาพวาด จารึกโบราณ,

ลานสิงโต (Lion Platform) และภาพเขียนสีบนผนังหิน (Frescoes of beautiful maidens) ซึ่งนับเป็นภาพเขียนสีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเคยมีมากถึง 500 ภาพ

ปัจจุบันเหลือเพียง 19 ภาพเท่านั้น ภาพเหล่านี้ถูกวาดด้วยเม็ดสีธรรมชาติบนปูนเปียกในซอกหินสูง โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านบันไดเวียนโบราณ

รับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านอาหาร Tropical Village, ดัมบุลลา

ช่วงบ่าย นำท่านเข้าร่วมกิจกรรมการทำสมาธิ ณ โรงแรมหรือสถานที่ใกล้เคียงบริเวณอนุราธปุระ

รับประทานอาหารเย็น และพักค้างคืนที่รีสอร์ท

ค้างคืน: Camellia Resort and Spa Sigiriya ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว (หรือเทียบเท่า)


วันที่ 4 วัดถ้ำดัมบุลลา - สวนเครื่องเทศ - มาทาเล - วัดพระเขี้ยวแก้ว - อาคารรูปแปดเหลี่ยม - แคนดี้

หลังรับประทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อย นำท่านออกเดินทางไปยัง แคนดี้ (Kandy) โดยระหว่างทางแวะเยี่ยมชม วัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Rock Cave Temple)

ซึ่งวัดถ้ำดัมบุลลาตั้งอยู่ในจังหวัดทางภาคกลางตอนเหนือของศรีลังกา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

วัดถ้ำแห่งนี้มีอายุย้อนไปถึง ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช โดยเดิมเคยใช้เป็นที่หลบภัยของพระราชาโบราณ และเมื่อพระองค์ได้ราชบัลลังก์คืนจึงทรงให้สร้างภาพแกะสลักอันงดงามภายในถ้ำ

ต่อมาพระราชาองค์อื่น ๆ ได้ทำการบูรณะและตกแต่งเพิ่มเติม ทำให้ในปัจจุบันมี ภาพแกะสลักพระพุทธรูปกว่า 150 องค์ โดยพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดมีความยาวถึง 15 เมตร

ภายในยังมีจารึกโบราณจากศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช และภาพวาดฝาผนังที่ส่วนใหญ่เป็นศิลปะแบบแคนดีในช่วงต้นศตวรรษที่ 19

วัดถ้ำดัมบุลลาเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การชมวิวัฒนาการของศิลปะโบราณศรีลังกา และถือเป็นแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญ เนื่องจากมีการผสมผสานศิลปะและวัตถุโบราณจากหลากหลายยุคสมัย

จากนั้นเดินทางต่อไปยังแคนดี้ พร้อมแวะเยี่ยมชม สวนเครื่องเทศ (Spice Garden) ที่เมือง มาทาเล (Matale)

แวะรับประทานอาหารกลางวัน ที่สวนเครื่องเทศในมาทาเล

ช่วงบ่าย นำท่านเยี่ยมชม วัดพระเขี้ยวแก้ว (Temple of the Tooth Relic หรือ Sri Dalada Maligawa) และสักการะพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้า

วัดพระเขี้ยวแก้ว (Temple of the Tooth Relic หรือ Sri Dalada Maligawa) เป็นวัดที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวพุทธในศรีลังกา ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแคนดี ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขา

วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน พระเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้า และมีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักอันวิจิตรงดงาม รวมถึงศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของศรีลังกา

จุดเด่นของวัดนี้คือ อาคารรูปแปดเหลี่ยม (Pathirppuwa) ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของวัด และถือเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่า วัดพระเขี้ยวแก้วได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศรีลังกา

และเป็นสถานที่สำคัญสำหรับการแสวงบุญของชาวพุทธทั่วโลก

จากนั้นเดินทางต่อด้วยการแวะเที่ยวชมเมืองแคนดี้ แบบสั้น ๆ

รับประทานอาหารเย็น และพักค้างคืนที่โรงแรม The Golden Crown Hotel เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว

ค้างคืน: The Golden Crown Hotel เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว (หรือเทียบเท่า)


วันที่ 5 วัดพระเขี้ยวแก้ว - กอลล์ - ป้อมปราการกอลล์ - กำแพงป้อมปราการ

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการ สักการะวัดพระเขี้ยวแก้ว (Temple of the Tooth Relic) เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นรับประทานอาหารเช้า และนำท่านเดินทางไปยัง เมืองกอลล์ (Galle)

กอลล์ (Galle) เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์และเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของศรีลังกา ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากกรุงโคลัมโบประมาณ 119 กิโลเมตร

เมืองนี้เป็นเมืองหลวงของจังหวัดทางใต้และเขตกอลล์ ก่อนที่ชาวโปรตุเกสจะเข้ามาในศตวรรษที่ 16 กอลล์เคยเป็นท่าเรือหลักของเกาะศรีลังกา โดยนักเดินทางชาวโมร็อกโกชื่อ อิบนุ บัตตูตะ

ได้บันทึกถึงเมืองนี้ในศตวรรษที่ 14 ว่าเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียใต้ ในช่วงศตวรรษที่ 18 เมืองกอลล์เจริญรุ่งเรืองสูงสุดภายใต้การปกครองของชาวดัตช์

ป้อมปราการกอลล์ (Galle Fort) ซึ่งเป็น มรดกโลกขององค์การยูเนสโก ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของเมืองป้อมปราการที่สร้างโดยชาวยุโรปในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โ

ดยแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและวัฒนธรรมท้องถิ่น

แวะรับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านอาหารท้องถิ่น

ช่วงบ่าย เดินชมเมืองกอลล์ โดยเดินบนกำแพงป้อมปราการ (Rampart) เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ในปี ค.ศ. 1649 และได้รับการเสริมความแข็งแกร่งต่อเนื่อง

จนกลายเป็นป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียที่สร้างโดยชาวยุโรปและยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นป้อมที่มีความเก่าแก่และเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

ซึ่งท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองและทะเลได้ หลังจากนั้น นำท่านนั่งรถตุ๊กตุ๊กกลับไปยังรถบัส

รับประทานอาหารค่ำและพักค้างคืนที่โรงแรม

ค้างคืน: Araliya Beach Resort & Spa Unawatuna เป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาว



วันที่ 6 วัดเกลานียะราชามหาวิหาร - เกลานียะ - หอคอยโลตัส - อาคารรัฐสภาเก่า - กอลล์เฟซกรีน - จัตุรัสอิสรภาพ - ตลาดเปตตาห์ - วัดกังการามา - ทะเลสาบเบย์รา

หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว นำท่านออกเดินทางไปยังเมืองโคลัมโบโคลัมโบ เป็นเมืองที่กำลังพัฒนา ตึกระฟ้าผุดขึ้นมาจากที่ซึ่งเคยเป็นอาคารเก่า

แต่ในบางส่วนยังคงรักษาเสน่ห์ของโลกเก่าเอาไว้ หอนาฬิกาอายุ 100 ปีและอาคารยุคอาณานิคมที่สร้างโดยอังกฤษหลายแห่งยังคงปรากฏให้เห็นในเมือง

นำท่านเยี่ยมชม วัดเกลานียะราชามหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Viharaya) ตั้งอยู่ในเมืองเกลานียะ (Kelaniya) ห่างจากกรุงโคลัมโบ (Colombo) ประมาณ 11 กิโลเมตร

วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาในศรีลังกาและถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสด็จเยือนของพระพุทธเจ้าตามตำนานในศาสนาพุทธ

เชื่อกันว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาที่วัดแห่งนี้ในครั้งที่สามของการเยือนศรีลังกา เพื่อแสดงธรรมโปรดชาวพื้นเมืองวัดนี้ได้รับการบูรณะหลายครั้งในประวัติศาสตร์

โดยเฉพาะในสมัยกษัตริย์ต่าง ๆ ของศรีลังกา รวมถึงการฟื้นฟูในยุคอาณานิคม 

เจดีย์หลักของวัดมีลักษณะโดดเด่นและเป็นศูนย์กลางของการสักการะและวัดแห่งนี้มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม ซึ่งแสดงเรื่องราวในพระพุทธศาสนาและเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ศรีลังกา

ภายในวัดมีพระพุทธรูปที่สำคัญหลายองค์ ซึ่งเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญ ซึ่งวัดนี้มีการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบโบราณและการออกแบบสมัยใหม่ที่ลงตัว

อีกทั้ง วัดตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สงบและเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมและสักการะ 

แถมยังมี เทศกาลเปราฮารา (Duruthu Perahera) จัดขึ้นทุกปีในเดือนมกราคม เป็นงานแห่ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญสำหรับชาวพุทธ โดยมีขบวนช้าง การแสดงดนตรี และการแสดงศิลปวัฒนธรรม 

ท่านสามารถศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและบทบาทของวัดในประวัติศาสตร์ศรีลังกา 

วัดเกลานียะราชามหาวิหารจึงเป็นทั้งสถานที่สักการะและศูนย์กลางของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศาสนา ประวัติศาสตร์ และศิลปะของศรีลังกาค่ะ 

รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารท้องถิ่น 

ช่วงบ่าย - เดินทางไปทัวร์เมืองโคลัมโบพร้อมกับช้อปปิ้ง โดยมีสถานที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น 

  1. หอคอยโลตัส (Lotus Tower)อาคารที่สูงที่สุดในศรีลังกาเป็นหอคอยโทรคมนาคมและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงโคลอมโบ และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความทันสมัยของศรีลังกา

    หอคอยแห่งนี้เป็น หอคอยที่สูงที่สุดในเอเชียใต้ ด้วยความสูงประมาณ 350 เมตรซึ่งหอคอยโลตัสมีลักษณะเด่นด้วยรูปทรงของดอกบัว ซึ่งเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ในวัฒนธรรมศรีลังกา

    ตัวหอคอยประกอบด้วยฐานทรงกลมและส่วนยอดที่มีลักษณะคล้ายกลีบดอกบัวหลากสี สะท้อนถึงความงดงามของธรรมชาติและการออกแบบที่แฝงความหมายเชิงวัฒนธรรม 

  1. อาคารรัฐสภาเก่า (Old Parliament Building)เป็นอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศศรีลังกา ตั้งอยู่ในกรุง โคลอมโบ ริมชายฝั่งทะเล

    ใกล้กับ กอลล์เฟซกรีน (Galle Face Green) อาคารนี้สร้างขึ้นในช่วงการปกครองของอังกฤษในปี 1930 และเคยใช้เป็นสถานที่ประชุมรัฐสภาของศรีลังกาจนถึงปี 1983

    ก่อนที่รัฐสภาจะย้ายไปยังอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่เมือง ศรีชยาวรรธนปุระโกฏเฏ อาคารแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลที่งดงามเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับชาวศรีลังกา

    ในฐานะสถานที่แห่งการเปลี่ยนแปลงและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ 

  1. กอลล์เฟซกรีน (Galle Face Green)เป็นลานกว้างริมชายฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงและเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวกรุง โคลอมโบ ลานแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคอาณานิคมของอังกฤษ

    เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการแข่งกีฬา เช่น แข่งม้า ยิงธนู และคริกเก็ต  

  1. จัตุรัสอิสรภาพ (Independence Square)หรือที่รู้จักกันในชื่อ Independence Memorial Hall สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ศรีลังกาได้รับเอกราชจากการปกครองของอังกฤษในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1948 

อาคารแห่งนี้ออกแบบในสไตล์สถาปัตยกรรมแบบ โบราณศรีลังกา ที่คล้ายคลึงกับพระราชวังของราชวงศ์แคนดี้ โดยเป็นโถงขนาดใหญ่ที่มีหลังคาทรงสูงและเสาหินเรียงรายล้อมรอบ ซึ่งให้บรรยากาศที่สง่างามและทรงคุณค่า 

จัตุรัสอิสรภาพเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาวศรีลังกาในฐานะสถานที่รำลึกถึงความพยายามและความสำเร็จของประเทศในการปลดปล่อยตนเองจากการปกครองของอาณานิคมอังกฤษ และเป็นสถานที่จัดงานพิธีสำคัญระดับชาติ เช่น งานวันประกาศอิสรภาพในทุก ๆ ปี 

  1. ตลาดเปตตาห์ (Pettah Market) เป็นตลาดเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในกรุง โคลอมโบ ประเทศศรีลังกา ตั้งอยู่ใกล้กับย่านการค้าและสถานีรถไฟหลักของเมือง

    เปตตาห์เป็นตลาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ซึ่งท่านสามารถเลือกช้อปปิ้งสินค้าในราคาย่อมเยาได้ ตั้งแต่ของสด ผลไม้ เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้

    ไปจนถึงเครื่องเทศพื้นเมืองและเครื่องประดับตลาดแห่งนี้จึงมีชื่อเสียงในเรื่องบรรยากาศที่คึกคัก เต็มไปด้วยผู้คนจากทุกสารทิศ ทั้งพ่อค้าแม่ค้าและนักท่องเที่ยวที่มาซื้อของในราคาย่อมเยา

    เปตตาห์จึงถือเป็นศูนย์กลางการค้าและแหล่งรวมวัฒนธรรมที่หลากหลาย 

หลังจากเพลิดเพลินกับการช้อปปอิ้งกันอย่างเต็มที่แล้ว นำท่านเยี่ยมชมวัดกังการามาซึ่งวัดกังการามา เป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโคลัมโบ

ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบ เบย์รา (Beira Lake) วัดแห่งนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งผสมผสานระหว่างศิลปะแบบไทย ศรีลังกา อินเดีย และจีน

ทำให้วัดมีบรรยากาศที่งดงามและหลากหลายทางวัฒนธรรม 

ภายในวัดมีทั้งวิหารพระพุทธรูป ศาลาการเปรียญ และหอสมุด นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุทางพุทธศาสนา ซึ่งรวบรวมวัตถุโบราณ พระพุทธรูป และสิ่งของสำคัญจากหลากหลายประเทศ

เช่น ประเทศไทย อินเดีย และเมียนมา รวมถึงพระพุทธรูปสำริดจำนวนมากที่จัดแสดงอย่างสวยงาม 

วัดกังการามายังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางศาสนาและเป็นศูนย์กลางสำหรับการศึกษาพระพุทธศาสนา วัดแห่งนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญ เนื่องจากมีบรรยากาศที่สงบเงียบ

และยังสามารถชมวิวทะเลสาบเบย์ราได้อีกด้วย 

ซึ่งไฮไลต์สำคัญของวัดกังการามา คือ 

  1. พระพุทธรูปจำนวนมาก ทั้งในอาคารหลักและบริเวณโดยรอบ 

  1. พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นที่จัดแสดงวัตถุโบราณจากหลายประเทศ 

  1. การจัดกิจกรรมทางศาสนา วัดมักจัดงานพิธีสำคัญทางศาสนาเป็นประจำ เช่น การทำบุญ และพิธีเวียนเทียนในวันสำคัญต่าง ๆ 

  1. วิวทะเลสาบเบย์รา ที่ท่านสามารถเดินเล่นรอบทะเลสาบและเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เงียบสงบ 

วัดกังการามาจึงเป็นทั้งสถานที่ทางศาสนาและสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การมาเยือนเมื่ออยู่ในกรุงโคลัมโบเป็นอย่างมาก 

รับประทานอาหารค่ำ

จากนั้น นำท่านเดินทางออกไปยังสนามบินนานาชาติบันดารา ไนเก เพื่อรอขึ้นเครื่องบินเวลา 01.15 น.


วันที่ 7 สนามบินนานาชาติบันดาราไนเก - กรุงเทพฯ - End total service -

 ขึ้นเครื่องบินตามเวลาเวลา 01.15 น. เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยด้วยความประทับใจ

โดยเที่ยวบิน UL 402 ในวันที่ 28 มกราคม 2025และจะเดินทางประเทศไทยเวลา06:20 ตามเวลาไทย

ใช้เวลาเดินทาง ชั่วโมง 35 นาที  

 

ราคา

ราคาเริ่มต้น 56,900 บาท (พักคู่)

หากพักเดี่ยวจ่ายเพิ่ม 14,500 บาท 

(ราคานี้สำหรับกรุ๊ป 15 ท่านขึ้นไป)

ราคาปี 2025

 

ราคาที่รวม

• ค่าโรงแรมที่พักตามที่ระบุ หรือเทียบเท่า(ห้องละ 2-3 ท่าน) พร้อมอาหารเช้า

• อาหารกลางวันและเย็น

การเดินทางด้วยรถโค้ชส่วนตัวปรับอากาศ  กฎหมายไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชม./วัน

บริการไกด์ระดับชาติที่พูดภาษาอังกฤษได้  รอรับที่ศรีลังกา

ค่าธรรมเนียมเข้าชม - มิหินทาเล / อนุราธปุระ / ศรีมหาโพธิ / อิสุรุมุยะ / ป้อมปราการหินสิกิริยา / วัดถ้ำหินดัมบุลลา / วัดพระเขี้ยวแก้ว /วัดกังการามะ 

• ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ สายการบินศรีลังกา แอร์ไลน์ ตามโปรแกรม (สุวรรณภูมิ-ศรีลังกา-สุวรรณภูมิ)  หากเกินจากนี้ จ่ายเพิ่มตามจริง ขาไป BKK-CMB โดยเที่ยวบิน UL403 / ขากลับ CMB-BKK โดยเที่ยวบิน UL402 ได้น้ำหนักกระเป๋าโหลดท่านละ 30 กก. และค่าน้ำหนักกระเป๋าถือขึ้นเครื่องท่านละ 5 กก.(ตามสายการบินกำหนด) ราคารวมค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมันตามรายการเที่ยวบินของสายการบิน --> ที่นั่งตามเรทราคาไม่เกิน 13,000 บาทต่อท่าน

 ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง (เสียชีวิต/อวัยวะ)วงเงิน 1,000,000 บาท/ท่าน (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)

 มีบริการเจ้าหน้าที่ส่งกรุ๊ป ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คที่นั่งบนเครื่อง และเช็คสัมภาระก่อนการเดินทาง

 

ราคาที่ไม่รวม

สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดไม่ได้ระบุไว้ในแผนการเดินทาง 

ใบอนุญาตใช้กล้องวิดีโอ 

อาหารมื้อเพิ่มเติม 

ค่าทิป 

• ค่าหนังสือเดินทาง หรือ ต่ออายุหนังสือเดินทาง, ค่าวีซ่าศรีลังกา สำหรับพาสปอร์ต์ต่างชาติ

• ค่าธรรมเนียมแจ้งเข้า-ออก, ค่ารรมเนียมค่าวีซ่า เข้าประเทศศรีลังกา สำหรับบุคคลต่างด้าว และต่างชาติ (ถ้ามี)

• ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ

• ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษนอกเหนือรายการ, ค่ามินิบาร์ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด ฯล

• ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Line : https://line.me/ti/p/~004207289999999
โทร : 083 035 9755