ทัวร์ส่วนตัวยุโรป (SWT002) เยอรมัน - ออสเตรีย - อิตาลี - สวิส (Best Four)

 

อยากเที่ยวแบบ 11 วัน และเน้นเส้นทางสวยไปเลย ? บินตรงลงการบินไทยสบายๆ นี่เลยค่ะ หริ่นขอแนะนำเส้นทาง 4 ประเทศ สุดอลังการ ไปทีเดียวคุ้มได้เลยนะคะ เยอรมัน - ออสเตรีย - อิตาลี - สวิส เรียกว่า best of four countries เลยทีเดียว เหมาะสำหรับทริปส่วนตัวยุโรป ที่รักธรรมชาติและเมืองเก่างดงามค่ะ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เราเทสต์ครั้งแล้วครั้งเล่า และลูกค้าของเราชื่นชมมากค่ะเส้นทางนี้

ทัวร์ส่วนตัวยุโรป เยอรมัน - ออสเตรีย - อิตาลี - สวิส (Best Four) 11 วัน
Day 1 - Munich - Fussen
Day 2 - Neuschwanstein Castle - Innsbruck
Day 3 - Innsbruck - Hallstatt, Austria
Day 4 - Cortina d’ Ampezzo
Day 5 - Bolzano
Day 6 - Sirmione - Milan
Day 7 - Lake Como - Lake Lugano
Day 8 - Interlaken
Day 9 - Grindelwald (Jungfrau)- Or schillthorn
Day 10 - Luzern
Day 11 - Rhine fall - Zurich airport - end total services -

 

 


1 Munich - Fussen

รับท่านจากสนามบินมิวนิคตามเวลากำหนด นำท่านเดินทางชมมืองมิวนิค เมืองนึ้ถือได้ว่าเป็นประตูของยุโรป อยู่แคว้นบาวาเรีย เป็นแหล่งผลิตเบียร์ ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ BMW

นำท่านชมความงดงามของเมืองมิวนิคในเขตเมืองเก่า อาทิ โบสถ์ที่มีรูปโดมหัวหอม พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก หรือพระราชวังฤดูร้อน ประตูชัย โรงละครโอเปร่า จตุรัสมาเรียน เขตเมืองเก่าใจแหล่งรวมห้าง และพลาดไม่ได้ที่จะชมตุ๊กตาเต้นรำที่ประดับอยู่บนอาคารเทศบาลเมืองเก่า เวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ของทุกวัน

เที่ยวเสร็จแล้ว See You Again เดินทางไป ค้างคืนที่ Fussen ค่ะ

 


2  Neuschwanstein Castle - Innsbruck

ตื่นเช้า ณ เมือง Fussen เมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติก พาเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ปราสาทสวยที่แม้แต่ราชาการ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ ยังหลงใหลนำไปเป็นปราสาทเจ้าหญิงนิทราในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของตัวปราสาทที่โดดเด่นและมีทะเลสาบและธารน้ำ เปรียบได้กับปราสาท 3 ฤดู ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปเยือนในช่วงฤดูไหน ก็จะมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันออกไป ทุกห้องในปราสาท ตกแต่งงดงาม

จากนั้นพาเดินทางไปเมืองนอนที่เมืองอินสบรูกค์ (Innsbruck, Austria) เขตประเทศออสเตรีย

 


3  Innsbruck - Hallstatt ,Austria

ช่วงเช้า See You Again พาเที่ยวตัวเมืองอินสบรูกค์ ซึ่งมีเทือกเขาแอลป์โอบรอบเมืองอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เหมือนฉากในละครชีวิตจริง เป็นเมืองที่ฟ้ากว้างมาก พาชมใจกลางเมืองเก่า ที่ตั้งของบ้านหลังคาทองคำเลื่องชื่อ หาต้องการพาขึ้นเคเบิ้ลชมวิวเมือง และพิพิธภัณฑ์ดีๆ ในเมืองหลายแห่ง เมืองนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของเครื่องประดับคริสตอลชื่อดังอย่าง Swarovski หากต้องการเข้าชมโรงงาน ที่เมือง Watten สามารถพาไปได้ ไม่ไกลกันมากค่ะ จัดให้ตามความต้องการของแต่ละกรุ๊ปค่ะ 

หากมีเวลาเหลือพอ นั่งรถต่อไปที่ Zillertal Alps อีกประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ เพื่อไปสัมผัสประสบการณ์เดินบนสะพานแขวน Olpererhutte (Hanging Bridge) ที่จะสร้างความตื่นเต้นท่านกลางวิวที่สวยงามเกินบรรยาย

จากนั้น พาเดินทางไปเมือง Hallstatt เมืองที่ดังที่สุดของ Austria ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด เพราะบ้านไม้ลดหลั่นกันอย่างงามตา ริมทะเลสาป เบื้องหลังคือธรรมชาติแสนบริสุทธิและภูเขางาม คนไทยชอบมากๆ เมืองนี้ ที่นี่จะพาเหมืองเกลือโบราณ (Salzwelten) ที่มีอายุมากกว่า 7,000 ปี หรือเลือกขึ้นเขาที่ 5 fingers หากเขาเปิดค่ะ

ระหว่างทาง หากมีเวลาเหลือ พาแวะเมือง Salzburg ได้ด้วยค่ะ ขึ้นอยู่กับท่าน เที่ยวช้าหรือเร็ว โดยซาลซ์บูร์กเมืองบ้านเกิดของโมสาร์ต ตั้งอยู่กลางเทือกเขาแอล์ป และยังเป็นเมืองสไตล์บาโรคที่สมบูรณ์แบบ

วันที่สาม เราจะค้างคืนกันที่ Hallstatt หรือเมืองใกล้ๆ ตามจำนวนโรงแรมที่ว่างนะคะ เมืองนี้ รร เต็มเร็วมาก เพราะมีน้อย รีบจองแต่เนิ่นๆ ค่ะ

 



4  Cortina d’ Ampezzo

ช่วงเช้าออกเดินทางไปเมือง Cortina d’ Ampezzo ในประเทศ Italy เมืองสกีรีสอร์ทตั้งอยู่ในหุบเขาแอล์ป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาโดโลไมต์ ขึ้นทะเบียนยูเนสโก้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ความเรียบง่ายของบ้านเรือนที่เป็นแบบอิตาลีผสมเยอรมัน
ชมทะเลสาป Misurina Lake ท่านจะมองเห็นเเงาสะท้อนน้ำของภูเขาและโรงแรมรอบทะเลสาป กับเมฆหมอกที่ลอยเหนือภูเขา เป็นภาพที่งดงามราวกับภาพวาด

จากนั้นเดินเที่ยวมืองคอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ เมืองสกีรีสอร์ท ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ เป็น Best of The Alps เพียงแห่งเดียวของอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 007 ตอน For Your Eye Only เมืองนี้อยู่สูงจากน้ำทะเล 1,219 เมตร ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมท์” เป็นสถานที่ตากอากาศตลอดปีของชนชั้นสูง นิยมท่องเที่ยวแบบ Hiking ปีนเขาชมทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียง

ค้างคืนที่เมือง Cortina d’ Ampezzo,Italy

 


5 Bolzano

ออกเดินทางไปยังถนนสายโดโลไมต์ พาเที่ยวเมืองโบลซาโน (BOLZANO) เมืองนี้ตั้งอยู่ในแคว้นเหนือสุดใกล้ๆชายแดนอิตาลี -ออสเตรีย เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ไร่องุ่นและแอปเปิลปราสาทเก่าแก่ เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ เมื่อครั้งที่ NATIONAL GEOGRAPHIC ไปถ่ายทำสารคดี การค้นพบซากมนุษย์ที่ฝั่งอยู่ใต้หิมะบนยอดเขาสูงในแคว้นทีโรลของออสเตรีย และนำร่างนั้นมาไว้ที่เมืองโบลซาโน่ เรียกกันว่ามนุษย์หิมะแห่งโบลซาโน่

พาเดินเล่นชมเมือง และขึ้นกระเช้าชมวิวยอดเขางามๆ หากสภาพอากาศดี และเขาเปิด วันนี้ เราจะค้างคืนที่เมือง Bolzano หรือเลือกค้างคืนเมือง Sirmione ก็ได้ค่ะ

 



6 Sirmione - Milan

พาเที่ยวเมืองซีร์มิโอเน่ (SIRMIONE) เป็นเมืองเก่าแก่อายุนับ 2000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (LAKE GARDA) ที่สวยงาม ในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีผู้คนที่มีฐานะในยุคสมัยโรมันใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและปัจจุบันก็เป็นเมืองพักผ่อนริมทะเลสาป

จากนั้นเดินทางไปเมืองมิลาน (Milan) เมืองหลวงแฟชั่นโลก ชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของเมือง คือโบสถ์ดูโอโม่แห่งมิลาน โบสถ์ใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป เป็นศิลปะแบบกอธิคที่หรูหรา และใช้เวลาในการสร้างนานเกือบ 500 ปี

จากนั้น ชอปปิ้งภายในอาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 อาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีชื่อเรียกเล่นๆว่าเป็นห้องนั่งเล่นของเมืองมิลาน เพราะนอกจากจะมีสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงขายแล้ว ยังมีร้านกาแฟที่เรียกกันว่า ไซด์ วอล์ค คาเฟ่ ที่ท่านสามารถนั่งจิบคาปูชิโน นั่งดูหนุ่มสาวแต่งกายด้วยเสื้อผ้าทันสมัย

พาเที่ยวที่อื่นๆ ตามความต้องการของ private tour และเวลาเอื้ออำนวย วันนี้ ค้างคืนที่เมืองมิลานค่ะ

 



7 Lake Como - Lake Lugano

ช่วงเช้าเดินทางไป Lake Como ทะเลสาบโคโม่ หนึ่งในทะเลสาบที่มีความสวยงามมากที่สุดของยุโรป ใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลี ลึกถึง 400 เมตร จึงทำให้มันเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป สถานที่พักผ่อนสำหรับเศรษฐีร่ำรวยและชนชั้นสูงมาตั้งแต่ยุคโรมัน จวบจนถึงปัจจุบัน มีหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโคโม่ หรือเบลลาจิโอ และมีวิลล่างามๆ ของมหาเศรษฐีมากมายให้เที่ยวชม

แต่หากเวลาเหลือ สามารถไปเที่ยวเมืองลูกาโน (Lugano) ได้ด้วยนะคะ เป็นเมืองริมทะเลสาประหว่างพรมแดนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ - อิตาลี ที่มีบรรยากาศแบบสวิส - อิตาเลี่ยน จนได้รับการขนานนามว่า “สวิสริเวียร่า”

ค้างคืนที่ Lake Como หรือ Lake Lugano ตามความต้องการอยากเที่ยวช้าหรือเร็วของท่านค่ะ

 



8 Interlaken

ช่วงเช้าออกเดินทางไปเขตประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เราจะเที่ยวเมืองที่ดังที่สุดในการเที่ยวสวิส อย่างเมืองอินเทอร์ลาเก้น (Interlake) อินเตอร์ลาเคน  (Interlaken) จุดเริ่มต้นสู่ยอดเขายอดนิยมของสวิสอย่างจุงเฟราน์

เมืองนี้ตั้งอยู่ระหว่าง 2 ทะเลสาบ คือ ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และ ทะเลสาบทูน (Lake Thun) เป็นจุดที่สามารถมองเห็นยอดเขา 3 แห่ง คือ ยอดเขาจุงฟราวน์ (Jungfrau) ยอดเขา Monch และยอดเขา Eiger

สถานที่ตากอากาศชั้นนำส่วนใหญ่ในถิ่นที่เรียกกันว่า Bernese Oberland จึงตั้งอยู่บริเวณ 3 เขานี้ ทิวทัศน์ะสวยงามเกินคำบรรยาย ทำให้เป็นสถานตากอากาศที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกชื่นชอบมากที่สุด

ตัวเมืองแบ่งได้เป็น 3 ส่วนคือ Interlaken Ost (ฝั่งตะวันออก) Interlaken West (ฝั่งตะวันตก) อยู่ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร และฝั่ง Unterseen (คนละฟากฝั่งของสถานีรถไฟตะวันตก)

พาเดินเล่นตามถนนสายหลักอย่าง Hoheweg แล้ว ยังสามารถไปเที่ยวสวนสนุก Mystery Park ก็ได้ ซึ่งมีลักษณะเป็นโดมวงกลมเหมือนศูนย์วิทยาศาสตร์ตั้งเด่นเป็นสง่า ที่นี่จะบอกเรื่องราวที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ในโลกนี้อย่างการสร้างพีระมิดของอิยิปต์ มนุษย์ต่างดาว เป็นต้น
ค้างคืนที่ Interlaken คืนแรก

 


9 Grindelwald (Jungfrau)- Or schillthorn

เช้าวันนี้ พาขึ้นยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของยุโรป มีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงาม ได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe  มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปแห่งนี้ มีถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 กิโลเมตร และหนา 700 เมตรโดยไม่เคยละลาย 
การขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟราสามารถทำได้โดยใช้รถไฟสายกลาเซียร์ เอ๊กซ์เพรส (Glacier Express) รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก วิ่งผ่านภูมิประเทศที่งดงามของเทือกเขาแอลป์ ผ่านอุโมงค์และสะพาน ตลอดเส้นทางปกคลุมด้วยหิมะ เริ่มต้นได้จากสองสถานีคือ Grindelwald หรือ Lauterbrunnen ผ่านสถานี Kleine Scheidegg และ Eigergletscher ก่อนจะขึ้นสู่สองสถานีที่เหลือโดยจะหยุดแวะพักเพียงสถานีละประมาณ 5 นาทีเท่านั้น คือสถานี Eigerwand (ฝั่งด้านเหนือของ  ยอดเขา Eiger) และ Eismeer (ทางทิศใต้) ณ จุดสูงสุดคือลานน้ำแข็งขนาดใหญ่เรียกว่า Sphinx จุดที่น่าสนใจอีกแห่งคือธารน้ำแข็งที่อยู่ลึก 30 เมตรจากพื้นผิว ซึ่งได้รับการแกะสลักให้สวยงาม

หรือท่านจะเลือกเที่ยว ยอดเขาชิลธอร์น (Schilthorn) สูง 2,970 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่ตั้งอยู่ในเมือง M?rren สามารถเดินขึ้นไปชมภูเขาโดยขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศในมุมกว้างแบบพาโนราม่า 360 องศา และยังสามารถมองเห็นภูเขา Titlis,Jungfrau,M?nch,Eige,Alps,Jura, ป่าดำในภูเขา Vosgesและ Mont Blanc อีกด้วย

ด้านบนของภูเขาชิลฮอร์น (Schilthorn) มีร้านอาหารชื่อ พิซ กลอเรีย (Piz Gloria) มีลักษณะพิเศษที่หมุนรอบตัวเองได้ 360 องศา หนึ่งรอบใช้เวลาโดยประมาณ 55 นาที สถานที่แห่งนี้ยังเคยได้รับเกียรติเป็นสถานที่ถ่ายภาพยนต์เรื่อง เจมส์บอน 007 ในปี 1960 นำแสดงโดย George Lazenby ซึ่งเป็นหนุ่มบอน์คนแรก

ค้างคืนที่ Interlaken คืนที่สอง

 


10  Luzern

ช่วงเช้าออกเดินทางไปเที่ยวเมืองลูเซิร์น เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของสวิส ขนาบด้วยภูเขาริกิและทิตลิส ตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเซิร์น
พาชม Chapel Bridge (Kapellbrucke) and Water Tower  ชาเปิลบริดจ์ และวอเตอร์ทาวเวอร์  แลนมาร์คของเมืองลูเซิร์น และยังเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุกว่า 670 ปีเลยที่เดียว และ อนุสาวรีย์สิงโตสะอื้น และชม ฮอฟเคียร์เคอ (Hofkirche) โบสถ์หอคอยคู่ปลายแหลม เป็นโบสถ์ที่สำคัญและยังเป็นแลนด์มาร์กของเมืองลูเซิร์น

หากต้องการเราจะพาขึ้นยอดเขาพิลาตุส (Pilatus) หรือภูเขามังกร เป็นยอดเขาคู่บ้านคู่เมืองลูเซิร์น โดยรถไฟฟันเฟืองที่สูงชันที่สุดในโลก ซึ่งมีความชันถึง 45 องศา ทำให้การนั่งรถไฟขึ้นสู่ยอดเขาพิลาตุสนั้นมีความตื่นเต้น และความงดงาม? เที่ยวเสร็จแล้ว เดินทางไปค้างคืนที่เมือง Zurich เพื่อพร้อมสำหรับเดินทางกลับที่สนามบินซูริค

 


11  Rhine fall - Zurich airport - end total services -

ช่วงเช้าพาเที่ยวน้ำตกไรน์ (Rhine fall) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นน้ำตกโบราณ มีอายุเก่าแก่มากประมาณ 14,000 - 17,000 ปี เกิดจากแม่น้ำไรน์   ฝั่งตรงข้ามน้ำตกไรน์ฟาลล์เป็นปราสาทเวิร์ท (Schloss Worth) ซึ่งเป็นปราสาทของทางเยอรมัน ท่านสามารถไปเยี่ยมชมปราสาทได้โดยการนั่งเรือสายสีแดงข้ามฝั่งไป

ส่วนเมืองซูริคเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองซูริคมิใช่เมืองหลวงของประเทศ แต่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ ธนาคาร และวัฒนธรรม ซูริคยังเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกและเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในทวีปยุโรป อีกทั้งเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงมากที่สุดอันดับ 2ในสวิตเซอร์แลนด์ ตามหลังมาจากเมืองเจนีวา

ซูริคเป็นเมืองที่มีความเป็นหนึ่งจากการผสมผสานระหว่างวิถีการดำเนินชีวิตที่ดีกับสิ่งแวดล้อม ศิลปะ และงานเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวา ความรื่นเริงแก่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

พาชมเขตเมืองเก่า Linderhof ประกอบไปด้วยโบสถ์ในสมัยกลาง Grossmunster และหอคอย Charlemagne ข้างในโบสถ์มีออร์แกนขนาดใหญ่ที่สุดในเขตปกครองซูริค รวมได้ 5,793 ปี่ แต่สิ่งที่งดงามมากที่สุด คือ งานกระจกสีโดยจิตรกร Marc Chagall ในส่วนของเมืองเก่านี้ยังมีตรอกซอกซอยคดเคี้ยวบนเนินเขา มีร้านค้าเล็ก ๆ มากมายที่ขายสินค้าเป็นงานฝีมือล้วน ๆ บนถนน Schipfe

จากนั้นนำส่งท่าน ณ สนามบินซูริคตามเวลากำหนด หรือท่านจะเดินทางกลับเองในวันถัดไปก็ได้ค่ะ ทัวร์เราจบงานกับท่าน ตอนเย็นวันนี้นะคะ รวม 11 วันเต็มค่ะ


ราคา

ค่ารถตู้พร้อมคนขับ ราคาวันละ 35,000 บาท 

ราคารวม

  1. ค่ารถตู้พร้อมคนขับ (ราคารวมค่าน้ำมัน ทางด่วน โรงแรมและอาหารของคนขับแล้ว)
  2. ค่าประกันการเดินทางแบบกลุ่ม ตามกฏหมายกำหนด คุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ 

ราคาไม่รวม

  1. โรงแรมของท่าน
  2. ที่จอดรถ จ่ายเป็นรายครั้งไป ตามโปรแกรมท่านเลือกเที่ยวจริง
  3. กรณีรถโค้ช ราคาไม่รวม City permit จ่ายเป็นรายครั้งไป ตามโปรแกรมท่านเที่ยวจริง, หากมีเอารถลงเรือ Ferry จ่ายเองหน้างานตามจริง
  4. ทิปคนขับ ตามพอใจ แนะนำ วันละ 40 ยูโร/คณะ
  5. อื่น ๆ ที่ไม่เขียนว่ารวม เช่น อาหารเที่ยงและเย็น ค่ายกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก ค่าวีซ่าและค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ตั๋วท่องเที่ยว จ่ายหน้างานเองตามจริง ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3%
  6. หากต้องการหัวหน้าทัวร์ จ่ายเพิ่มวันละ 16,500 บาท ราคารวมโรงแรมและอาหารหัวหน้าทัวร์แล้ว 

การจ่ายเงิน

  • งวด 1 มัดจำ คณะละ 5,350 บาท สามารถจองผ่านบัตรเครดิต ผ่านหน้าระบบเวบไซต์ได้เลย จากนั้นเราจะออกใบจองทัวร์คอนเฟิร์มให้ท่าน (หากทริปไม่คอนเฟิร์ม จะคืนเงินให้ 100% ภายใน 7 วัน)
  • งวดที่ 2 ท่านละ 5,000 บาท ภายใน 7 วัน หลังจากได้รับการคอนเฟิร์มแล้ว
  • งวดที่ 3 ท่านละ 25,000 หลังจากวีซ่าผ่านแล้ว หรือ/และก่อนเดินทาง ไม่น้อยกว่า 30 วัน
  • งวดที่ 4 ท่านละ ที่เหลือ วันที่ 2 ของทริป หลังจากเราไปรับท่านแล้ว (เพื่อความมั่นใจ)