ทัวร์ส่วนตัว (ITA008) ยุโรป แกรนด์อิตาลี 9 วัน 8 คืน

       

เที่ยวอิตาลีครบไฮไลต์เมืองสำคัญทั้งประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ และธรรมชาติอันสวยงาม ได้แก่ Rome - Pompeii - Sorrento - Capri - Naples - Vatican City - Siena - San Gimignano - Pisa - Florence - Venice - Verona - Sermione - Lake Como - Milan

 

ทัวร์ส่วนตัวยุโรป แกรนด์อิตาลี 9 วัน 8 คืน
       Day 1 - Rome - Pompeii - Sorrento - Capri
       Day 2 - Capri - Naples - Rome
       Day 3 - Vatican City - Rome
       Day 4 - Siena - San Gimignano - Pisa
       Day 5 - Florence
       Day 6 - Venice
       Day 7 - Venice - Verona - Sermione - Milan
       Day 8 - Lake Como - Milan
       Day 9 - Milan Airport
       
       

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


       1 Rome - Pompeii - Sorrento - Capri
       
       วันแรกของการเดินทาง เรารอรับท่านที่สนามบินกรุงโรม ประเทศอิตาลี (Leonardo da Vinci-Fiumicino Airport) พาท่านออกเดินทางไปยังนครปอมเปอี (Pompeii) ระยะทาง 242 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 50 นาที ปอมเปอีเป็นเมืองโรมันโบราณที่ถูกภูเขาไฟวิสุเวียสถล่มด้วยลาวาจนเมืองหายไปทั้งเมืองในชั่วเวลาเพียงข้ามคืน ชมซากเมืองโบราณที่ถูกขุดขึ้นภายหลัง ตึกรามบ้านช่อง วิหารเทพเจ้า ตลาด โรงละครโบราณ ข้าวของเครื่องใช้ ที่นักโบราณคดีได้ขุดค้นพบโดยมีสภาพที่ยังสมบูรณ์อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
       
       จากนั้นพาท่านเดินทางต่อไปยังเมืองซอร์เรนโต้ (Sorrento) ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 27 กิโลเมตร เป็นเมืองโรแมนติค เมืองตากอากาศริมทะเลทางตอนใต้ของอิตาลี ชมเมืองสักพักแล้วลงเรือเฟอร์รี่เพื่อไปเที่ยวยังเกาะคาปรี (Capri) เกาะสวรรค์ทางตอนใต้ของอิตาลี นั่งรถรางขึ้นสู่ยอดเขาคาปรีเพื่อชมวิวจากมุมสูง เดินเล่นชมตัวเมืองคาปรีที่มีบรรยากาศโรแมนติก ถ่ายภาพคู่กับสัญลักษณ์ของเกาะคาปรี คือ สวนออกุสต้า กับโขดหิน FARAGLIONI
       
       ค้างคืน Capri ตัวอย่างโรงแรม Hotel San Michele ***

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


       
       2 Capri - Naples - Rome
       
       วันนี้พาเที่ยวชมเกาะ Capri ชมถ้ำบลูกร็อตโต้ (Grotta Azzurra) เป็นหนึ่งในถ้ำน้อยใหญ่กว่า 10 แห่ง ณ เกาะคาปรี เหตุที่ถ้ำแห่งนี้แตกต่างจากแห่งอื่นจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเนื่องจากภายในถ้ำแห่งนี้นั่นถูกฉาบด้วยแสงสีฟ้าสวยงาม ที่เกิดจากสีของน้ำทะเลสะท้อนกับแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาจากปากทางเข้าถ้ำ เกิดเป็นภาพมหัศจรรย์ ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่ได้พบเห็น การเข้าไปชมความงามในถ้ำแห่งนี้นักท่องเที่ยวมักจะพายเรือลอดเข้าไปในถ้ำที่สูงจากระดับน้ำทะเลเพียงเมตรเศษ ๆ ดังนั้นจึงต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ, ระดับน้ำขึ้น-ลงและสภาพของคลื่นทะเลในวันนั้นๆ ด้วยว่าสามารถเข้าไปในถ้ำได้หรือไม่
       
       จากนั้นพาท่านออกเดินทางจากเกาะคาปรีมุ่งหน้าสู่เมือง Naples ชมจัตุรัสหลักของเมืองเนเปิลส์ที่เรียกว่า Piazza del plebiscito ชม National Archaeological Museum พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ เป็นอาคารทรงเก่าสีแดง ที่เก็บชิ้นงานศิลปะและรูปปั้น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำมาจากซากปรักหักพังของปอมเปอี โดยภายในเต็มไปด้วยรูปปั้นขนาดใหญ่ยักษ์ ที่ทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเรานั้นช่างเล็กเหลือเกิน นั่งรถรางขึ้นไปชมความสวยงามของเนเปิลส์จากมุมสูง ที่จุดชมวิวคาสเทลซานเอลโม (Castel Sant'Elmo) จากนั้นพาชมโบสถ์ประจำเมืองเนเปิลส์หรือ Naples Duomo (Duomo di Napoli) ซึ่งโบสถ์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมใจของคริสต์ศาสนิกชนชาวเนเปิลส์มาช้านาน
       
       ได้เวลาอันสมควร พาท่านออกเดินทางกลับมายังกรุงโรม (Rome) เมืองหลวงของประเทศอิตาลี "ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม" เป็นจริงตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน โรมก็ยังคงเป็นเมืองหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากที่สุด เป็นเมืองที่มีความสำคัญมากทางประวัติศาสตร์ มีประวัติยาวนานมากว่า 2,800 ปี พาท่านชมน้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) ที่มีความเชื่อว่าหากใครอธิษฐานและหันหลังโยนด้วยมือขวาให้เหรียญข้ามไหล่ซ้ายไป เชื่อว่าจะทำให้ได้กลับมากรุงโรมอีกครั้ง จากนั้นนำท่านชมบันไดสเปน (Spanish Steps) ซึ่งเป็นจุดนัดพบของหนุ่มสาวชาวอิตาเลียน ชอปปิ้งบนถนนแฟชั่นเวีย คอนด็อตติ (Via Condotti) ที่เต็มไปด้วยร้านหรูหราที่สุดในกรุงโรมและร้านค้าแบรนด์แนมชั้นนำบนถนนแห่งนี้
       
       ค้างคืน Rome ตัวอย่างโรงแรม Hotel Giotto ***

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


       3 Vatican City - Rome
       
       วันนี้พาชมนครรัฐวาติกัน (Vatican City) ตั้งอยู่ในกรุงโรมเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาซึ่งเป็นประมุขของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก จัดว่าเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก (0.44 ตารางกิโลเมตร) โดยมีศูนย์กลางคือ St. Peter's Basilica พาชม Vatican Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมงานศิลปะทั้งหลายไว้มากมาย โดยมีห้องที่เป็นไฮไลต์คือ Sistine Chapel ซึ่งมีภาพวาดที่โด่งดังคือ The Creation of Adam อยู่ ชม St. Peter's Square และ St. Peter's Basilica สัญลักษณ์ของการมาเยือนนครรัฐวาติกัน ขึ้นบันไดจำนวน 551 ขั้นขึ้นไปยอดโดมเพื่อชมวิวมุมสูง มองย้อนออกมาเห็นจัตุรัสที่สวยงามและยิ่งใหญ่
       
       จากนั้นกลับเข้ามาเที่ยวยังกรุงโรม พาชม Colosseum ซึ่งเป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโรมใช้ในการประลองของเหล่า gladiator, สัตว์ป่าและสัตว์ร้ายทั้งหลาย สร้างเสร็จตั้งแต่ปี ค.ศ. 80 อัฒจันทร์เป็นรูปวงรี วัดโดยรอบได้ 527 เมตร สูง 57 เมตร จุคนได้กว่า 60,000 คน ที่นี่ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2550
       
       จากนั้น พาชม Roman Forum ถือว่าเป็นศูนย์กลางด้านต่างๆ เช่น การประชุมทางการเมือง การปกครอง บูชาเทพเจ้า ฯลฯ ของกรุงโรมในสมัยโบราณ ใช้เวลาสร้างยาวนานมากถึง 900 ปี ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพังแต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการ และพาชมจุดชมวิวบน Palatine Hill มองลงมาเห็น Roman Forum และ Colosseum ที่สวยงาม
       
       จากนั้นออกเดินทางไปยัง Siena ระยะทาง 223 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อค้างคืนที่เมืองนี้
       
       ค้างคืน Siena ตัวอย่างโรงแรม Hotel Sangallo Park ***

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


       4 Siena - San Gimignano - Pisa
       
       วันนี้เที่ยวเมือง Siena ในช่วงเช้า พาชม Piazza Del Campo เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ใจกลางเมือง พาชม Fonte Gaia (Fountain of Joy) สร้างขึ้นในปี 1419 บริเวณนี้เป็นจุดสิ้นสุดของระบบท่อประปาที่นำน้ำสะอาดเข้าสู่ใจกลางเมือง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำพุนี้ รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมทำจากหินอ่อน ประดับด้วยหินแกะสลักเป็นรูปต่างๆ พาชม Palazzo Pubblico สร้างในปี 1297 เคยใช้เป็นที่ทำงานของรัฐบาลในสมัยยุคกลางหรือคือ Councilof Nine ด้านนอกของปราสาทแสดงถึงสถาปัตยกรรมในยุคกลางได้ดีโดยได้รับอิทธิพลศิลปะสไตล์ Gothic ด้านล่างสร้างด้วยหินสูงขึ้นไปใช้อิฐซุ้มประตูโค้งที่เห็นจะโค้งเข้ากว่าปรกติเล็กน้อยเพื่อให้รับกับการโค้งออกของ Palazzo del Campo ส่วน Torre del Mangia สร้างระหว่างปี 1325 ถึงปี 1344 ที่สร้างตั้งใจจะสร้างให้สูงกว่าทุก Tower ในเมืองข้างเคียงซึ่งก็ตั้งใจจะสร้างให้สูงกว่า Tower ใน Florence จากนั้นพาชม Piazza Del Duomo เป็นศิลปะแบบ Siena คือเอาศิลปะแบบ Gothic มาดัดแปลงสร้างปี 1215 ถึงปี 1263 ประกอบด้วย 3 ส่วน Duomo, Bell Tower, Baptistery
       
       จากนั้น ออกเดินทางไปยังเมือง San Gimignano ระยะทาง 58 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เดินเที่ยวชมเมือง San Gimignano ซึ่งเป็นเมืองโบราณในแคว้นทัสคานี ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองโบราณ ชมหอคอยที่สูงตระหง่าย 14 หอ ชมโบสถ์ประจำเมือง San Gimignano Duomo (Collegiate Church of San Gimignano) ที่ตั้งอยู่ในจัตุรัสดูโอโม (Piazza Del Duomo) ชมภายนอกพระราชวังโปโปโล (Popolo Palace)
       
       จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองปิซ่า (Pisa) ระยะทาง 177 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ Pisa ถูกประกาศเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1987 พาชมโบสถ์เล็ก ๆ ที่ชื่อ Santa Maria della Spina ข้างแม่น้ำ Arno จากนั้นพาชมหอเอนปิซ่าอันโด่งดัง (Leaning Tower of Pisa) สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 (ใช้เวลาสร้าง 177 ปี) เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 55 เมตร มีบันได 293 ขั้นและเอียงจนยอดหอออกห่างจากแนวกลาง 3.9 เมตร หอนี้ไม่ได้ตั้งใจสร้างให้เอียง แต่เริ่มเอียงตั้งแต่การสร้างถึงชั้นที่ 3 เนื่องจากพื้นดินเป็นดินนิ่มทำให้ยุบตัว ในบริเวณเดียวกันชมโบสถ์ Duomo di Pisa (Pisa Cathedral) และ Baptistery หรือหอล้างบาป หรือหอศีลจุ่มอยู่ทางด้านตะวันตกของโบสถ์ ซึ่งมีอ่างศีลจุ่มอยู่ตรงกลาง ที่ปิซ่าหอนี้จะมีรูปร่างกลมใบ้สำหรับเรียนคำสอนและรับศีลจุ่ม
       
       ค้างคืน Pisa ตัวอย่างโรงแรม Calamidoro Hotel ****
       
       
       

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

5 Florence
       
       วันนี้พาท่านออกเดินทางมาเที่ยวเมือง Florence หรือ Firenze ในภาษาอิตาเลียน ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 20 นาที Florence เป็นเมืองแห่งศิลปะ ตั้งอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำ Arno ซึ่งเมื่อก่อนเป็นศูนย์กลางทางการค้าและเป็นจุดกำเนิดของศิลปะ สถาปัตยกรรมแขนงต่างๆ ปัจจุบันเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1982 พาชม Piazza Michelangelo เป็นจุดชมวิวที่จะมองย้อนไปเห็นวิวมุมกว้างของเมือง Florence หลังคาเป็นสีส้มโทนเดียวกันทั้งเมือง และมีโดมของ Duomo โดดเด่นเป็นสง่า ตอนกลางคืนพอเปิดไฟยิ่งเด่นเข้าไปใหญ่
       
       ชม Duomo ที่มีขนาดใหญ่ ใกล้กันชม Ponte Vecchio ซึ่งเป็นสะพานที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ สร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามแม่น้ำ Arno ซึ่งมีความพิเศษต่างจากสะพานทั่วไปคือ มีร้านค้าอยู่สองข้างทาง สมัยก่อนเป็นที่ตั้งของร้านขายเนื้อสัตว์ แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งร้านค้าพวกงานศิลปะและอัญมณี
       
       พาชม Piazza della Signoria พาชมโบสถ์ Santa Maria Novella ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ผนังด้านหน้าของโบสถ์ทำด้วยหินอ่อนสีขาวสลับเป็นลายกับสีเขียว ชมจัตุรัส Piazza del Duomo ถือเป็นจตุรัสที่มีสถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์ของศิลปะ Renaissance และชมมหาวิหาร Santa Maria del Fiore Cathedral เป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของยุโรป
       
       ค้างคืน Florence ตัวอย่างโรงแรม Ih Hotels Firenze Business ****

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


       6 Venice
       
       วันนี้พาท่านออกเดินทางสู่เมืองเวนิซ (Venice) ระยะทาง 256 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 40 นาที เกาะเวนิส (Venice) ตั้งอยู่ในทะเลเอเดรียติก (Adriatic Sea) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังที่สุดของอิตาลี ตัวเมืองสร้างขึ้นบนเกาะที่ทำจากเสาไม้ จึงใกล้ถึงเวลาล่มสลายในอีกไม่กี่สิบปี เมืองแห่งสายน้ำ เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ไม่มีถนนรถวิ่ง มีแต่คลอง และเรือกอนโดล่า บ้านเรือนเก่าแก่ เกาะ สะพาน ตลาด และโบสถ์วังต่างๆ อยู่รวมกันอย่างอลังการงานสร้าง
       
       นั่งเรือชมแกรนด์ คาแนล จากนั้นเดินชมเกาะเวนิชครบไฮไลต์ ได้แก่ โบสถ์ซานมาร์โค มหาวิหารซานมาร์โก้ โบสถ์สำคัญแห่งเมืองเวนิส หลังคาของมหาวิหารซานมาร์โกสร้างแบบโดมสุเหร่าของศาสนาอิสลาม โดมกลางมีขนาดใหญ่ที่สุด ประดับโมเสกสีทองอร่ามตั้งแต่หลังคาจรดพื้น จึงได้รับสมญานามว่า “Church of Gold” ชมพระราชวังดอจ เป็นพระราชวังสไตล์โกธิค ของดยุคผู้ครองเมืองเวนิส ภายในพระราชวังประดับด้วยทองคำ และมีภาพจิตรกรรมมากมาย
       
       ชมสะพานชื่อดัง สะพานรีอัลโต ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปมากที่สุด ซึ่งอีก 2 สะพานที่มีชื่อเสียง คือ Accademia Bridge และ Scalzi Bridge เพราะสะพานแห่งนี้มีความเก่าแก่ที่สุด
       
       ขึ้นหอระฆังซานมาร์โก สูงถึง 98 เมตร ที่ตั้งอยู่ด้านหน้ามหาวิหารซานมาร์โก ที่นี่เป็นอีกแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ และยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดไปชมวิวสวยๆ ของเมืองเวนิส
       อิสระชอปปิ้งตามอัธยาศัย และตอนเย็น ชมคอนเสิร์ตหากต้องการ
       
       ค้างคืน Venice ตัวอย่าง Smart Hotel Holiday ****
       
       
       

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


       7 Venice - Verona - Sermione - Milan
       
       วันนี้พาท่านเดินทางไปยังเมืองเวโรน่า (Verona) ระยะทาง 112 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 10 นาที ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกที่อยู่ทางตอนเหนือของอิตาลีใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเวนิส เมือง Verona โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง โรมิโอและจูเลียต ผ่านพาชม Arena di Verona เป็นสนามกีฬาโรมันเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 ใหญ่รองจากโคลอสเซียมที่กรุงโรมและสนามอารีน่าในเมืองนีมส์ ประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น ชมจัตุรัสใหญ่ Piazza delle Erbe ถ่ายรูปกับหน้าบ้านจูเลียต ที่เป็นตึกแถวยุคกลางเลขที่ 23 บนถนนคัปเปลโล ชมโบสถ์ Verona Cathedral
       
       จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองซีร์มิโอเน่ (Sermione) ระยะทาง 53 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที Sermione เป็นเมืองริมทะเลสาบ Lake Garda ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี เป็นเมืองสวยงามและเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดเมืองหนึ่ง เพราะตัวเมืองเป็นแหลมยื่นไปในทะเลสาบ แปลกตา ตัวเมืองเก่าแก่ ตัดด้วยน้ำล้อมรอบ ถือเป็นมุมทรงเสน่ห์อย่างมาก เดินเล่นในเขตเมืองเก่าและริมทะเลสาบ
       
       ช่วงเย็นพาท่านเดินไปยังเมืองมิลาน (Milan) ระยะทาง 145 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง และค้างคืนที่นี่
       
       ค้างคืน Milan ตัวอย่างโรงแรม Centro Siloe Residence ****
       
       
       

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


       8 Lake Como - Milan
       
       วันนี้พาท่านออกเดินทางไปเที่ยวที่ทะเลสาบ Lake Como ระยะทาง 84 กิโลเมตรจากมิลาน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 40 นาที ทะเลสาบโคโมซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี สถานที่ถ่ายทำหนังเจมส์ บอนด์ ถือเป็นทะเลสาบที่ใหญ่อันดับสามของอิตาลี อยู่ใกล้พรมแดนสวิส นำชมเมืองน่ารักๆ รอบทะเลสาบโคโมที่ดังที่สุด เช่น เบลลาโจ้ (Bellagio) และเมืองวาเรนนา (Varenna) และพานั่งเรือ Taxi ไปชมวิลล่ากลางทะเลสาบ หากมีเวลาเหลือ นำชมวิลล่าชื่อดังในเกาะ ได้แก่ วิลล่า Villa Carlotta และ Villa del Balbianello หรือท่านอาจเลือกชมเมืองเลนโน (Lenno) แทนได้
       
       เดินทางกลับสู่เมืองมิลาน (Milan) เมืองหลวงทางด้านแฟชั่นของโลก พาท่านชมความยิ่งใหญ่อลังการของมหาวิหาร Duomo เป็นมหาวิหารแบบโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างเมื่อปี 1386 กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ใช้เวลาถึง 427 ปี วัสดุที่ใช้เป็นหินอ่อนเกือบทั้งหลัง ความสูง 157 เมตร กว้าง 92 เมตร หลังคาและตัวอาคารด้านนอกทำเป็นยอดแหลมเป็นรูปนักบุญองค์ต่างๆ 135 ยอด มีรูปสลักพระแม่มาเรียสูง 4 เมตรหุ้มด้วยทองทั้งองค์ อยู่สูงสุด
       
       เดินเล่นจัตุรัส Piazza Duomo ที่อยู่ด้านหน้ามหาวิหาร มีพระบรมรูปทรงม้ากษัตริย์ Vittorio Emanuele II (ภาษาอังกฤษ Victor Emanuel II) ประดิษฐานอยู่กลางลานกว้าง เป็นคนที่ก่อตั้งประเทศอิตาลีขึ้นมา จากการรวมแคว้นต่างๆ เข้าด้วยกันจนกลายเป็นประเทศอิตาลี
       
       ชอปปิงที่อาคาร Galleria Vittorio Emanuele II ตัวอาคารมีความหรูหรา โออ่า ซึ่งเป็น shopping malls ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในปี 1865 โดยตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับกษัตริย์ Vittorio Emanuele II เป็นอาคารโครงเหล็กกรุกระจก หลังคามีโดมตรงกลาง พื้นปูด้วยหินอ่อนและแกรนิต ผนังประดับด้วยภาพโมเสกและลวดลายปูนปั้นที่สวยงาม มีร้านค้าแฟชั่นมากมาย โดยเฉพาะแบรนด์เนมชื่อดังของอิตาลี และมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ
       
       ค้างคืน Milan ตัวอย่างโรงแรม Centro Siloe Residence ****
       
       
       
       9 Milan Airport
       
       วันนี้ไม่มีทัวร์ เราพาท่านส่งท่าน ณ สนามบิน Milan Airport ตามเวลากำหนด

 

ราคา
       ค่ารถตู้พร้อมคนขับ ราคาเริ่มต้นวันละ 35,000 บาท


       ราคารวม
       1. ค่ารถตู้พร้อมคนขับ (ราคารวมค่าน้ำมัน ทางด่วน โรงแรมและอาหารของคนขับแล้ว)
       2. ค่าประกันการเดินทางแบบกลุ่ม ตามกฏหมายกำหนด คุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์


       ราคาไม่รวม
       1.โรงแรมของท่าน
       2.ที่จอดรถ จ่ายเป็นรายครั้งไป ตามโปรแกรมท่านเลือกเที่ยวจริง
       3.กรณีรถโค้ช ราคาไม่รวม City permit จ่ายเป็นรายครั้งไป ตามโปรแกรมท่านเที่ยวจริง, หากมีเอารถลงเรือ Ferry จ่ายเองหน้างานตามจริง
       4.ทิปคนขับ ตามพอใจ แนะนำ วันละ 40 ยูโร/คณะ
       5.อื่น ๆ ที่ไม่เขียนว่ารวม เช่น อาหารเที่ยงและเย็น ค่ายกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก ค่าวีซ่าและค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ตั๋วท่องเที่ยว จ่ายหน้างานเองตามจริง ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3%
       6.หากต้องการหัวหน้าทัวร์ จ่ายเพิ่มวันละ 17,500 บาท ราคารวมโรงแรมและอาหารหัวหน้าทัวร์แล้ว


       การจ่ายเงิน
       • งวด 1 มัดจำ คณะละ 5,350 บาท สามารถจองผ่านบัตรเครดิต ผ่านหน้าระบบเวบไซต์ได้เลย จากนั้นเราจะออกใบจองทัวร์คอนเฟิร์มให้ท่าน (หากทริปไม่คอนเฟิร์ม จะคืนเงินให้ 100% ภายใน 7 วัน)
       • งวดที่ 2 ท่านละ 5,000 บาท ภายใน 7 วัน หลังจากได้รับการคอนเฟิร์มแล้ว
       • งวดที่ 3 ท่านละ 25,000 หลังจากวีซ่าผ่านแล้ว หรือ/และก่อนเดินทาง ไม่น้อยกว่า 30 วัน
       • งวดที่ 4 ท่านละ ที่เหลือ วันที่ 2 ของทริป หลังจากเราไปรับท่านแล้ว (เพื่อความมั่นใจ)





5,350 Baht

Pay now!


PRIVATE TOUR