ทัวร์ส่วนตัวญี่ปุ่น เจาะลึกไฮไลต์ แกรนด์อาคิตะ Grand Akita (6 วัน 5 คืน)




หลีกหนีเมืองใหญ่ที่จอแจ ไปสัมผัสญี่ปุ่นแบบท้องถิ่นแท้ๆ ที่แคว้นอาคิตะ เดินทางจากโตเกียว บินภายในเพียง 1 ชม. ท่านก็จะได้ประสบการณ์ล้ำค่า เก็บแต้มเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่เหมือนใคร เหมือนเป็นอาคันตุกะที่ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยว คนท้องถิ่นจะดีใจมากเมื่อได้ต้อนรับคุณ รอยยิ้มและการสบตาที่คุณจะไม่ลืม ทัวร์อาคิตะแบบไม่เหนื่อย 6 วัน 5 คืน พาชมหมู่บ้านซามูไร ขึ้นกระเช้า แช่ออนเซน เดินป่า เดินตลาด และเที่ยวตัวเมือง ครบบรรยากาศ เหมาะกับทุกฤดูกาล ทัวร์ส่วนตัว คุณเลือกเวลา และจำนวนเที่ยวตามต้องการ All four season in Akita

เสน่ห์อาคิตะ ทำไมต้องเที่ยวอาคิตะ

“อาคิตะ” อยู่ห่างจากโตเกียวเพียงหนึ่งชั่วโมงโดยเครื่องบิน จึงเป็นทริปสั้นๆ ที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวที่อยากเที่ยวเชิงวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ไม่เหมือนใคร ในพื้นที่การเกษตรอุดมสมบูรณ์ อาหารทะเลอร่อย ไปจนถึงการเสิร์ฟสาเกร้อนในบ้านไม้กลางหมู่บ้านที่ปกคลุมด้วยหิมะ เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากที่การเดินทางโดยเครื่องบินเพียง 1 ชม. จากโตเกียว คุณก็จะได้สัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร ทริปนี้ยังเหมาะสำหรับครอบครัวและเยาวชนอย่างมาก พาลูกตะลุยกิจกรรมหลากหลายปิดเทอม เดือนสิงหาคมได้เลย

“อาคิตะ” เป็นแหล่งกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์อาคิตะที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีงานฤดูหนาว Kamakura ที่โดดเด่น โดยบ้านหิมะน้ำแข็งที่สุดน่ารักในเดือนกุมภาพันธ์ (Yokote City Hall) มีเทศกาลแห่คันโตที่จัดขึ้นในฤดูร้อน เป็นหนึ่งในสามเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของภูมิภาคโทโฮคุ ภาพคนแห่เสาไม้ไผ่สูง 15 เมตร ด้วยมือเปล่า เดินคดเคี้ยวไปตามถนนสายหลักนั้นเต็มไปด้วยความงามและพลัง

อาคิตะยังมีหมู่บ้านออนเซ็นธรรมชาติ 7 แห่งที่สวยจนลืมหายใจ Nyuto Onsen อยู่ลึกเข้าไปในภูเขาทางตะวันออกของอากิตะ ยังมีทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น “ทะเลสาบทาซาวะ” และน้ำทะเลสีฟ้าใสของทะเลสาบเป็นภาพที่ลึกลับเหลือเชื่อ

ถิ่นนี้อาหารสุดอร่อย เพราะเป็นแหล่งผลิตอาหารต้นตำรับมากมาย ข้าวงาม จนเป็นที่มาของเมนูท้องถิ่น อย่าง “คิริทัมโปะ” (ข้าวปิ้งย่าง) “อินานิวะอุด้ง" กล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในสามของอุด้งที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น และ “หม้อไฟนาเบะ" ที่ใช้โชะสึรุซึ่งเป็นน้ำปลาที่ผลิตในท้องถิ่น อาคิตะมีทะเลญี่ปุ่นทางทิศตะวันตกมอบอาหารทะเลให้กับทำให้ มีปลาตามฤดูกาลที่เหมาะสำหรับการทำซาชิมิ และหอยนางรมตัวอวบอ้วนในฤดูร้อน ทิวเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรทางด้านทิศตะวันออกเป็นแหล่งน้ำบริสุทธิ์และพืชป่าที่กินได้

ยังเป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ นิทานพื้นบ้านดั้งเดิม Namahage เรื่องราวของปีศาจในหน้ากากผี ที่ออกหากินในบ้านของผู้คน ให้เราพาชมไปชมความงามเหล่านี้ ด้วยตาของคุณเอง กับ See You Again เรารักญี่ปุ่นในแบบที่คุณหลงใหล

ทัวร์ส่วนตัวญี่ปุ่น เจาะลึกไฮไลต์ แกรนด์ อาคิตะ Grand Akita (6 วัน 5 คืน)
Day 1 สนามบินอาคิตะ - หมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate) - หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโตออนเซ็น
Day 2 เที่ยว หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโตออนเซ็น (Nyuto Onsen) เต็มวัน
Day 3 รถไฟชมธรรมชาติสายอาคิตะ ไนริคุ - กระเช้ากอนโดล่าของ Ani Ski Resort
Day 4 เซมโบะกุ (Semboku)- หุบเขาดาคิกาเอริ (Dakigaeri Gorge) - ทะเลสาปทะเลสาบทาซาวะ (Lake Tazawa) - ศูนย์เยี่ยมชมสุนัขแห่งอาคิตะ ( Akita Dog Visitor Center) - “คิริทัมโปะ - อาคิตะ
Day 5 อาคิตะเต็มวัน
Day 6 สนามบินโอดาเตะ โนชิโระ - สนามบินฮาเนดะ - สนามบินสุวรรณภูมิ


ทัวร์ส่วนตัวญี่ปุ่น เจาะลึกไฮไลต์ แกรนด์ อาคิตะ Grand Akita (6 วัน 5 คืน)

Day 1 สนามบินอาคิต - หมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดาเตะ - หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโตออนเซ็น



รับท่าน ณ สนามบินอาคิตะ พาชมหมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai District) เป็นหมู่บ่านชาวบ้านที่เป็นซามูไรจะยังคงรักษาการแต่งกายแบบดั้งเดิม ซึ่งทำไห้สัมผัสถึงกลิ่นอายจากยุคเอโดะตลอดเส้นทางที่กว้างขวาง พร้อมกับความงดงามตระกาลตาของทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในฤดูหนาว

จากนั้นพาท่าน เดินทางไป หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโตออนเซ็น ชื่อ “นิวโตออนเซ็น” เป็นชื่อเรียกกลุ่มน้ำพุร้อนทั้งเจ็ดแห่งที่พบบริเวณเชิงเขานิวโต โรงแรมทั้งเจ็ดแห่งนี้ซ่อนลึกอยู่ในภูเขา และแต่ละแห่งจะมีคุณภาพน้ำพุร้อนที่แตกต่างกันไป

แนะนำ เข้าพักที่สึรุโนะยุ ซึ่งเป็นโรงแรมน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่มาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ เป็นจำนวน 1 คืน


Day 2 เที่ยว หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโตออนเซ็น เต็มวัน


วันนี้ ทั้งวัน ให้ท่านออนเซน ณ นิวโตออนเซ็น ที่เชิงเขาเอโบชิดาเกะ (Eboshidake) สูง 2,066 เมตร หรือที่รู้จักกันในชื่อภูเขานิวโตะ มีเรียวกังออนเซ็น 7 แห่ง (โรงแรมขนาดเล็กสไตล์ญี่ปุ่น) ทั้งหมดมีแหล่งที่มาแยกกันกระจายอยู่ในป่าบีชลึก รวมกันเป็นจังหวัดนิวโตะออนเซ็นที่เงียบสงบ ได้รับการขนานนามว่าเป็นออนเซ็นที่ดีที่สุดที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกในรายการทีวีที่ออกอากาศในปี 2019

คุณสามารถเลือกใช้เวลาดีๆ ห่างไกลจากเมืองในพื้นที่ออนเซ็นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 สำรวจธรรมชาติโดยรอบและเพลิดเพลินกับอาหารแบบชนบทบนภูเขา ได้อย่างอิสระ

แนะนำ เข้าพักที่สึรุโนะยุ ซึ่งเป็นโรงแรมน้ำพุร้อน คืนที่ 2

Day 3 รถไฟชมธรรมชาติสายอาคิตะ ไนริคุ - กระเช้ากอนโดล่าของ Ani Ski Resort - อุตโตออนเซ็น มาทะงิโนะยุ

เดินทางไปสถานีคะคุโนะดาเตะ เพื่อเดินทางด้วย รถไฟชมธรรมชาติสายอาคิตะ ไนริคุ (Akita Nairiku Line) โดยสารรถไฟชมธรรมชาติสายอาคิตะ ไนริคุ ไปยังสถานีอานิไอ เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยหิมะอันน่าทึ่งด้านนอกหน้าต่างรถไฟตลอดเวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 20 นาที

จากนั้น เดินทางไป “สถานีอานิไอ” ไปขึ้นกระเช้ากอนโดล่าของ Ani Ski Resort (http://www.aniski.jp) ราคาผู้ใหญ่ 2,800 เยน ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีหรือสูงกว่า) 2,000 เยน นักเรียนประถม 1,000 เยน ขึ้นเขาโมริโยชิ ไปยังยอดเขา และเตรียมตัวตื่นตะลึงไปกับทิวทัศน์ฤดูหนาวสุดประทับใจที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง

ยอดเขาที่มีต้นอาโอโมริ โทโดมาสึ (Abies mariesii) อยู่มากมาย โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากสถานี Summit โดยกระเช้าของอานิสกี จากนั้นเดินต่อไปอีก 5 นาที ที่ยอดเขาจะมีลานที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อรอบ ที่ให้ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง ส่วนหิมะก็จะผ่านการบีบอัดแล้วเพื่อให้ท่านสามารถสำรวจพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย มีรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะและไม้สกีให้บริการฟรี

ในหน้าหนาว คุณจะได้พบปรากฏการณ์ “ปีศาจหิมะแห่งเขาโมริโยชิ” (snow monsters) คือ หิมะจับกับต้นสนอย่างหนาแน่น จนกลายร่างเหมืนอปีศาจหิมะนั่นเอง เพราะ“เขาโมริโยชิ” เป็นแหล่งหนึ่งในสามแหล่งป่าไม้ที่ปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งสามารถชมได้เพียงแค่ช่วงกลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคมเท่านั้น

แต่ถ้าเป็นใบไม้เปลี่ยนสีฤดูใบไม้ร่วง ที่ภูเขาโมริโยชิ หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่าฮานะโนะเฮียคุเมซาน (100 ภูเขาดอกไม้ที่โด่งดังที่สุด) และยังมีต้นไม้ใบกว้าง เช่น ต้นบีช และเมเปิ้ลที่แผ่กระจายอยู่ที่ใจกลางภูเขาท่ามกลางพืชพรรณบนเขาสูงมากมาย เมื่อกระเช้าเคลื่อนผ่านต้นบีช ท่านสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างใกล้ชิด และจากยอดเขา ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับยอดเขาโมริโยชิ รวมถึงใบไม้ที่มีสีสันงดงามบนภูเขารอบๆ

เดินทางไปค้างคืนแถบเมือง เซมโบะกุ (Semboku) ประตูบ้านของจังหวัดอาคิตะ หรือแถบเขาโมริโยชิตามต้องการ


Day 4 เซมโบะกุ - หุบเขาดาคิกาเอริ - ทะเลสาปทะเลสาบทาซาวะ (Lake Tazawa) - ศูนย์เยี่ยมชมสุนัขแห่งอาคิตะ - “คิริทัมโปะ - อาคิตะ

หลังจากเช็คเอาท์แล้ว เดินเล่นตัวเมือง เมือง เซมโบะกุ จากนั้น พาชมหุบเขาดาคิกาเอริ (Dakigaeri Gorge) www.city.semboku.akita.jp/en/index.html สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเมืองเซมโบกุ “Dakigaeri keikoku (หุบเขา Dakigaeri)” มีทิวทัศน์ที่สวยงามของต้นไม้เขียวสดและใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ทิวทัศน์จาก สะพาน “Kami no Iwahashi (สะพานหินแห่งพระเจ้า)” นั้นโดดเด่นมาก “มิคาเอริโนะทากิ (น้ำตก)” เป็นจุดที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมในหุบเขา และเดินจากทางเข้าประมาณ 30 นาที

พาชม ชมทะเลสาป “ทะเลสาบทาซาวะ” Lake Tazawa ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น และน้ำทะเลสีฟ้าใสของทะเลสาบเป็นภาพที่ลึกลับเหลือเชื่อ ทะเลสาบสีสวยที่มีเอกลักษณ์ สีของน้ำจะเปลี่ยนไปตามภูมิอากาศราวกับเวทมนตร์ ริมทะเลสาปจะมี “เสาโทริอิ" สีแดงสดขนาดสูงใหญ่ริมทะเลสาบทาซาวะ ใกล้ๆ กันนี้เองมีศาลเจ้าชินโตเล็กๆ และบ่อน้ำที่ทัตสึโกะมาดื่มเพื่อไม่ให้ตัวเองแก่ เรียกว่า “ศาลเจ้าโกะซะโนะอิชิ Gozanoishi Shrine” และมี “รูปปั้นทัตสึโกะ" (Statue of Tatsuko) รูปปั้นที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1968 เพื่อระลึกถึงหญิงสาวทัตสึโกะตามตำนานของทะเลสาบทาซาวะ ที่มีตำนานความรักที่เล่าต่อกันมา ว่า นานมาแล้วทัตสึโกะ เธอรับไม่ได้ที่ร่างกายของเธอค่อยๆ ชราไปตามเวลา จึงไปขอพร เจ้าแม่กวนอิมได้บอกให้เธอไปดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่บ่อทางตอนเหนือซึ่งก็คือน้ำจากทะเลสาบ หลังจากดื่มเธอก็กลายร่างเป็นมังกร จากนั้นมังกรสาวทัตสึโกะ ก็ได้พบรักกับมังกรหนุ่มจากทะเลสาบโทวาดะ ทุกฤดูหนาวมังกรหนุ่มจะมาหาทัตสึโกะที่ทะเลสาบทาซาวะ ทำให้ทะเลสาบโทวาดะกลายเป็นน้ำแข็ง ส่วนทะเลสาบทาซาวะไม่เคยเป็นน้ำแข็งเลย เพราะมีความอบอุ่นจากความรักของทั้งคู่ แต่ในความเป็นจริงสาเหตุที่ไม่กลายเป็นน้ำแข็งก็เพราะว่า ทะเลสาบทาซาวะลึกมากนั่นเอง


พาท่านลิ้มลองอาหารท้องถิ่น ณ อาหารกลางวันโทริเมชิ อาหารกลางวันโทริเมชิ (ไก่) สุดแสนอร่อยที่ร้านฮานาเซ็น ซึ่งเป็นร้านรับทำข้าวกล่องกลางวันที่ตั้งอยู่ตรงด้านหน้าสถานีโอดาเตะ

จากนั้น เยียมชม “ศูนย์เยี่ยมชมสุนัขแห่งอาคิตะ” สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณสามารถทำความรู้จักและพบปะสุนัขสายพันธุ์อาคิตะตัวจริงได้ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวจากระเบียงที่มองเห็นไปยังพิพิธภัณฑ์สุนัขสายพันธุ์อาคิตะ ทิวทัศน์ของเมืองโอดาเตะ รวมไปถึงเขาโฮอุโออุ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอีกด้วย

หากต้องการ work shop ทำอาหาร วันนี้ขอแนะนำ “คิริทัมโปะ” สัมผัสประสบการณ์ในการทำคิริทัมโปะ ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของจังหวัดอาคิตะ อาหารนี้ทำจากการปั้นข้าวที่บดอัดแล้วไปรอบๆ ไม้เสียบ คิริทัมโปะที่คุณได้ทำด้วยมือของคุณเองนี้จะต้องมีรสชาติอร่อยเป็นพิเศษแน่นอน!

ค้างคืน อาคิตะ แนะนำโรงแรม Akita Castle Hotel


Day 5 อาคิตะเต็มวัน

ช่วงเช้า พาเดินเล่น ตลาดท้องถิ่น Akita Shimin Ichiba (Akita Citizen's Market) ตลาดอาหารแห่งนี้เป็น “ครัวของอาคิตะ” อย่างแท้จริง ซึ่งคุณสามารถหาซื้อได้ทุกอย่างตั้งแต่ปลา เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ผักบนภูเขาและผักดอง ไปจนถึงของที่ระลึก เสื้อผ้า และของใช้ประจำวันที่ผลิตในอาคิตะ มีอาหารที่ผลิตในท้องถิ่นมากมายและให้คุณได้สัมผัสกับอาหารตามฤดูกาลและวัฒนธรรมอาหารของอาคิตะอย่างใกล้ชิด

พาชมพิพิธภัณฑ์ Akita Folklore and Performing Arts Center ชมสาธิตการแห่โคมแบบญี่ปุ่น ที่มีที่มาจากเทศกาลคันโต (Kanto Festival Performance ) อันเป็นประเพณีที่ไม่เหมือนใครในอาคิตะ และเป็นเทศกาลที่เป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ Kanto Matsuri ยังมี "มุมท้าทาย" ที่ผู้เข้าชมสามารถทดลองการแห่โคม หรือคันโตได้ด้วยตนเอง

ตอนกลางวัน เดินทางไปรับประทานอาหารเที่ยง ณ Akita Maiko Theater MATSUSHITA ชมการแสดงของไมโกะ (Maiko Show) และรับประทานอาหารเที่ยงและเครื่องดื่ม ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ มัตสึชิตะ มีโรงละครอาคิตะไมโกะที่อาคิตะไมโกะแสดงการเต้นรำแบบญี่ปุ่น พิธีชงชา คุณและครอบครัวจะได้สัมผัสรสชาติของวัฒนธรรม

หากต้องการ พาชม "พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ" สามารถสวมชุดนามาฮาเกะแล้วถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และชมภาพยนตร์ที่สัมผัสถึงจิตใจของผู้คนชาวโอกะที่สืบทอดประเพณีนามาฮาเกะด้วย และ "พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านโอกะชินซัง" (Oga Shinzan Folklore Musuem) ที่อยู่ติดกัน เป็นการจำลองบ้านเรือนของชาวโอกะ ให้ผู้คนได้สัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับนามาฮาเกะ


ค้างคืน อาคิตะ แนะนำโรงแรม Akita Castle Hotel


Day 6 สนามบินโอดาเตะ โนชิโระ - สนามบินฮาเนดะ - สนามบินสุวรรณภูมิ

ส่งท่าน ณ สนามบินโอดาเตะ โนชิโระ เพื่อเดินทางไปยังกรุงโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) และเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร อย่างประทับใจ หรือท่านเดินทางต่อไปยังจุดหมายในฝันอื่นๆ ตามต้องการ


ราคา

190,000 บาท / กรุ๊ป (เดินทางได้ 1 - 5 ท่าน ราคาเท่ากัน) โปรดติดต่อสอบถามราคาปี 2024 เพิ่มเติม

ราคารวม

1. รถตู้/รถโค้ชพร้อมคนขับรถ ตามขนาดของกรุ๊ป (ราคารวมน้ำมัน ทางด่วน โรงแรม และอาหารคนขับแล้ว)
2. ที่พักพร้อมอาหารเช้า ราคาไม่เกินคืนละ 18,600 เยน ต่อห้องคู่ หากต้องการอัพเกรด จ่ายเพิ่มเองตามจริง
3. ค่าประกันการเดินทางแบบกลุ่ม ตามกฏหมายกำหนด คุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์


ราคาไม่รวม

1. ค่าบริการจอง ตั๋วท่องเที่ยว ร้านอาหาร คิววีซ่า ล่องเรือ รถไฟ เครื่องบินภายใน และทัวร์ต่างๆ ให้ คิดค่าบริการจองใบละ 500 บาท / กรุ๊ป / ใบ ตาม private tour ที่ท่านต้องการ
2. หากต้องการหัวหน้าทัวร์ วันละ 16,500 บาท (ราคารวมโรงแรม และอาหารหัวหน้าทัวร์แล้ว)
3. ตั๋วเครื่องบิน
4. ทิปคนขับ ตามพอใจ แนะนำ วันละ 5,000 - 8,000 เยน/คณะ
5. ทิปหัวหน้าทัวร์ ตามพอใจ แนะนำ วันละ 5,000 - 8,000 เยน/คณะ
6. อาหารเที่ยงและเย็น ของลูกทัวร์
7. อื่น ๆ ที่ไม่เขียนว่ารวม เช่น ตั๋วรถไฟ, ตั๋วเครื่องบินภายใน,ค่ายกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก, ตั๋วเฟอร์รี่, แทกซี่ต่างๆ, จ่ายเพิ่มหน้างานเองตามจริง
8. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3%